:Songgyu X Woohun♡

สายลมหนาวพัดปุยหิมะบางที่กำลังโปรยปรายปกคลุมตึกใหญ่ต้นไม้ตามข้างทางผู้คนต่างสวมใส่เสือผ้าหนาห่อหุ่มร่างกายจากอากาศที่แสนหนาวเหน็บ เข้าสู่วินเทอร์ฤดูกาลข้างกองไฟแสนอบอุ่นของเดือนธันวาคมคู่รักที่เดินจูงมือกันกับคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึงหลังเที่ยงคืนนี้
ภาพทุกอย่างยังคงสะท้อนเข้ามาในดวงตาคู่สวยของชายหนุ่มวัยเยาว์กับกลิ่นหอมอวนของคาเฟ่ลาเต้ร้อนลอยขึ้นมาในยามที่เจ้าตัวจ่อแก้วขึ้นที่ปลายคาง ในคาเฟ่เล็กๆริมข้างทางที่ผู้คนบางตา
ความเงียบสงบในมุมเล็กๆภายในร้านชั่งแตกต่างจากข้างในจิตใจของเขาที่กำลังยุ่งเหยิงในตอนนี้ สายตาที่ทอดมองยาวออกไปนอกหน้าต่างบานใสสลับกับอีกมุมที่อยู่ตรงหน้าเก้าอี๋ไม้อีกตัวที่ไร้คนนั่ง 'ความเหงา' คือคำตอบที่เขาค้นพบกับตัวเองเมื่อตอนที่ใครบางคนนั้นไม่ได้อยู่ข้างกายกัน
กับความสัมพันธ์ที่หวานหยดแต่ยากจะเข้าใจ ในขณะที่เด็กมัธยมปลายปี3คนอื่นกำลังวุ่นวายกับการเอ็นทรานซ์เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับต่อไปแต่เขากับมานั่งคิดฟุ้งซ่านเรื่องรักๆไคร้ๆที่แสนจะไร้สาระและ 'ไร้ค่า'ที่สุด บางทีเขาอาจจะเสียเวลาให้กับความสัมพันธ์ฉาบฉวยนี้มากเกินไป....
..คลืนน~
เสียงโทรศัพท์เครื่องบางสั่นพร้อมปรากฎข้อความประโยคสั้นๆจากเบอร์ที่คุ่นตา
'มาหาหน่อยดิ จะรอหนูที่ห้องนะ'
รอยยิ้มบางๆเย้ยขึ้นที่มุมปากความรู้สึกดีใจและหน่วงใจเกิดขึ้นมาในเวลาเดียวกัน หึ ไปหางั้นหรอ ทำไมเขาถึงต้องถ่อไปหาอีกคนเพียงเพราะข้อความง่ายๆสั้นๆที่ไร้ซึ้งความใส่ใจนี่ด้วยล่ะ
ถ้าเกิดว่าคนๆนั้นคิดถึงกันจริงๆก็น่าจะมาหากันเองแล้วสิ
ทำไมต้องเป็นเขาตลอดด้วยที่ต้องเป็นฝ่ายเดินเข้าหาอีกคนก่อนเรื่อยมา
ในช่วงเทศกาลสำคัญแบบนี้น่าจะเป็นอีกคนมากกว่าไหมที่เป็นฝ่ายมาหาหรือไม่ก็แค่ขับรถมารับกันเฉยๆก็ได้หนิ เขาเบื่อที่จะเป็นฝ่ายเข้าหาซองกยูก่อนแล้ว
ร่างเล็กของอูฮยอนฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะไม้ด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน
เขารู้สึกเหนื่อยล้าและหนาวหัวใจมากมายอย่างบอกไม่ถูก ในเวลานี้ถ้าหากว่ามีใครสักคนที่สามารถให้เขาซบกอดพึ่งพิงไออุ่นนั้นได้มันก็คงดีไม่น้อย
ร่างบางหลับตาพริมพรางนึกถึงเรื่องราวหลายๆอย่างที่ผ่านเข้ามาในช่วงไม่กี่เดือนนี้ เด็กมัธยมปลายอย่างเขาที่พึ่งจะโดนคนที่แก่กว่ากันตั้งเกือบ5ปีตามเตาะเหมือนเงา จนสุดท้ายก็เป็นตัวอูฮยอนเองที่เผลอตัวเผลอใจไปกับอีตาลุงคนนั้นจนได้ ทุกๆอย่างมันไวเกินไปจนเขาเองรู้สึกไม่แน่ใจเลยว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้มันจะมีตอนต่อไปเป็นเช่นไร ขนาดตอนนี้มันพึ่งจะเริ่มต้นเองแท้ๆเขายังรู้สึกเหงาและเหนื่อยกับมัน คนๆนั้นที่เอาแต่ติดงานจนบ่อยครั่งไม่มีแม้แต่เวลามาสนใจดูดำดูดีกัน
ในช่วงที่หิมะกำลังโปรยปลายปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ซองกยูไม่รู้หรอกว่าอูฮยอนนั้นเหงาแค่ไหน อูฮอนต้องการมากกว่านี้ต้องการเวลาให้อีกคนเอาใจใส่กันบ้างหรือจะเป็นอะไรก็ได้ที่มากกว่าข้อความที่ว่า'คิดถึงนะ มาหาหน่อย' เหอะ มันน่าน้อยใจไหมล่ะ แล้วไอ้คิดถึงที่ว่านี่มันคิดถึงแบบไหนกัน ซองกยูน่ะคิดถึงเขาหรือว่าคิดถึงเซ็กซ์กันแน่....
...คลืนนน~
'รออยู่นะ '
เป็นอีกประโยคสั้นๆของคนเป็นพี่ที่ส่งเข้ามาหา ยังไงซะซองกยูก็จะจี้ให้อูฮยอนไปหาให้ได้จริงๆสินะ
ตาสวยจ้องมองข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือแบนด์ผลไม้เครื่องหรูแล้วได้แต่ยิ้มเยาะให้ตัวเองเป็นครั้งที่สองก่อนที่จะลุกขึ้นเก็บข้าวของที่วางกระจายบนโต๊ะเข้ากระเป๋าเป้ใบเล็ก
สุดท้ายแล้วเขาก็ใจอ่อนให้กับความขี้ตื๊อของอิตาลุงคนนั้น เป็นอีกครั้งและอีกครั้งที่ซองกยูร้องขอแล้วอูฮยอนก็ทำตามโดยที่ไม่แม้แต่เอ่ยปากขัดใดๆสักคำ
ก็เออ..ไปก็ไปสิ ต่อให้ในใจตอนนี้อูฮยอนจะอยากหายตัวหนีกลับไปนอนซุกผ้าห่มอุ่นๆที่บ้านแทนการไปเปลืองตัวให้อีกคนก็เหอะ
แต่อูฮยอนก็เลือกที่จะไปหาซองกยู
ค่ำคืนแห่งความสุขของใครหลายๆคนใกล้จะมาถึง กับแสงไฟสลัวหลากสีสันที่ประดับตบแต่งตามข้างทางดูสวยงามเข้ากับบรรยากาศคริสต์มาส ในยามที่สายลมหนาวกระทบร่างบางที่ยืนอยู่หน้าตึกสูง แก้มใสเย็นเฉียบยามที่สายลมพัดผ่าน
อูฮยอนกระชับเสื้อโค้ชตัวหนาสีชมพูน่ารักด้วยอาการหนาวสั่นก่อนที่จะก้าวเดินเข้าไปยังตัวอาคารเบื่องหน้าจุดมุ่งหมายต่อไปคือชั้นสิบห้าและห้องของซองกยู
ขาเรียวหยุดยืงหน้าประตูบานใหญ่มือน้อยล่วงเข้าไปในเป้ใบเล็กยิบคีย์การ์ดสีดำทรงเรียบที่คนๆนั้นเคยทิ้งไว้ให้ ก่อนที่จะใช้มันเปิดประตูแล้วดันมันเข้าไป...
ข้างในห้องมืดสนิดและเงียบอย่างกับห้องร้างกลางหุบเขา ทำไมไม่เปิดไฟล่ะ อย่าบอกนะว่าดึกป่านนี้แล้วซองกยูยังไม่เลิกงานอีก? หรือว่าออกไปธุระที่ไหนสักที่แล้วยังไม่กลับเข้ามา เหอะ แค่นึกถึงสาเหตุอูฮยอนก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เอาซะเลย คงไม่ใช่ว่าจะให้เขามารอที่ห้องหรอกนะ คิม ซองกยู
ร่างบางของอูฮยอนเดินเข้าไปยังด้านในส่วนที่เป็นห้องรับแขกด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวพรางนึกเคลืองใจให้กับอีกคนที่นัดกันเอาไว้
แต่แล้วร่างบางก็ต้องหยุดชะงักในทันทีเมื่อเห็นภาพที่สะท้อนอยู่ตรงหน้า ท่ามกลางความมืดมีเค้กสตอเบอรี่ก้อนโตจุดเทียนส่องแสงสว่างวางอยู่ตรงกลางโต๊ะข้างๆมีกระดาษโน๊ตเลิกๆสีฟ้าอ่อนเขียนเอาไว้
ก่อนที่อูฮยอนจะเอื้อมมือลงไปยิบกระดาษแผ่นเล็กนั้นขึ้นมาอ่าน 'You are mine' คือข้อความที่ปรากฏอยู่ในโน๊ตแผ่นเล็กที่ถูกเขียนด้วยลายปากกากากๆที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นลายมือของใคร
อูฮยอนจ้องมองข้อความนั้นแล้วใบหน้าก็เกิดลอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นมาอย่างหุบไม่ได้ อีตาลุงบ้านี่ก็มีมุมโรแมนติกกับชาวบ้านเขาด้วยเหอะ อูฮยอนไม่ค่อยชินเลย
ในขณะเดียวกันแสงไฟสีทองเล็กๆหลายร้อยดวงก็ส่องสว่างขึ้นมาอย่างกระทันหันร่างน้อยของอูอยอนสะดุ้งด้วยความตกใจ
แต่แล้วเมื่อหันมองไปรอบๆตัวอูฮยอนเองก็พบว่าบริเวณโดยรอบทั้งหมดนั้นถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟสีสวยเป็นร้อยๆดวงส่งแสงระยิบระยับท่ามกลางความมืดดั่งแสงของหิงห้อยที่ลอยไปมาในท้องฟ้ามืดไม่มีผิด
ตรงมุมห้องใกล้ๆมีต้นสนต้นนึงขนาดที่ใหญกว่าตัวเขาเล็กน้อยถูกตั้งเอาไว้ รอบต้นก็ถูกประดับเต็มไปด้วยแสงไฟสีทองด้วยเช่นเดียวกันโดยรอบๆต้นมีลูกบอลสีแดงแล้วก็ระฆังเล็กๆติดอยู่เต็มไปจนถึงตรงยอดสูงสุดของต้นที่มีดวงดาวส่องแสงประกายอยู่ตรงนั้น
ทุกอย่างน่าประทับใจที่สุด อย่าบอกนะว่าอีกคนเป็นคนทำมันให้กับเขา.....
ในขณะที่กำลังยืนนิ่งเก็บเกี่ยวความสวยงามนั้นอยู่อูฮยอนก็ถูกมือหนาของใครบางคนดึงจากทางด้านหลังเข้าไปโอบกอดเอาไว้พร้อมกับเอาในหน้าเข้ามาซุกไซ้ที่ซอกคอขาวของเขาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
"อุ๊ย!!"
"ชอบหรือเปล่าหื้ม.." คือเสียงที่ใครอีกคนกระชิบเบาๆที่ขัางหูของเขาก่อนที่จะกดจูบลงมาบนแก้มเนียน
อูฮยอนมีท่าทีตกใจเล็กน้อยร่างบางหันหน้าไปเผชิญกับคนที่อยู่ด้านหลัง โดยไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่าคนๆนั้นคือใครเพราะอูอยอนนั้นคุ้นชินกับอ้อมกอดของซองกยูดี
"ชอบมากเลยล่ะ" อูฮยอนเอื้อมแขนเข้ามากอดตอบซองกยูในทันทีร่างบางซุกใบหน้าเข้าหาอกแกร่งซึมซับอ้อมกอดนั้นเอาไว้ก่อนที่จะใช้ฝ่ามือเล็กตุบตีมันเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้
"ตอนเค้าเดินเข้ามานึกว่าพี่ไม่อยู่ซะอีก ไม่คิดเลยว่าจะเซอร์ไพร์สกันแบบนี้"
"แล้วทำไมถึงมาช้าจังล่ะ พี่รอหนูตั้งนาน"
"รอแค่นี้ไม่ได้หรอ"
"ได้สิ พี่น่ะรอไอ้อ้วนได้ทั้งคืนเลยนะ " พูดจบก็ก้มลงมาฟัดแก้มยุ้ยๆของร่างเล็กในอ้อมกอดทันที
"เด่วเหอะ ใครอ้วนห๊ะ!" อูฮยอนหันหน้าหนีไปอีกทางไม่ยอมให้คนเป็นพี่ได้หอมเขาได้ดี พรางส่งตาเขียวไปให้อีกคนที่พึ่งจะหาว่าเขาอ้วนไปเมื่อกี้
ซองกยูเห็นหน้างอๆของอูฮยอนแล้วก็ได้แต่กั้นขำเอาไว้ข้างใน แล้วจึงลากคนตัวเล็กให้ลงไปนั่งที่โซฟาตัวใหญ่พร้อมกัน
"อธิษฐานแล้วเป่าเทียนสิ" ซองกยูชี้นิ้วไปที่เค้กสตอเบอรี่ก้อนโตแล้วส่งยิ้มน้อยๆไปให้อูฮยอน
อูฮยอนจ้องมองเค้กก้อนใหญ่สหลับไปมากับใบหน้าของซองกยูอย่างไม่เชื่อตาด้วยความแปลกใจ
ตลอดระยะเวลาที่คบเป็นแฟนกันมาไม่เคยมีเลยสักครั้งที่ซองกยูจะแสดงหรือกระทำอะไรที่บงบอกว่าเจ้าตัวนั้นเป็นคนชอบความโรแมนติกเลย กลับกันสิ่งที่ซองกยูทำให้ในวันนี้มันทำให้อูฮยอนรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
บ่อยครั้งที่คนเป็นพี่ชอบละเลยและไม่ค่อยมีเวลาจะสนใจกันแปลกที่เรื่องน้อยใจพวกนั้นมันกลับละลายหายไปอย่างกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
และในคืนนี้ต่อให้ไม่มีแสงไฟสีทองร้อยๆดวงไม่มีต้นคริสต์มาสต้นใหญ่
เป็นแค่เค้กสตอเบอรี่ก้อนเดียวอูฮยอนก็จะรู้สึกว่าตัวเองมีค่ามากมายกับซองกยูแล้ว
"อธิษฐานว่าไงดี ขอให้พี่ซองกยูรักอูฮยอนมากๆดีไหม" อูฮยอนยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาประสานกันเอาไว้ที่หน้าอกส่งยิ้มน่ารักให้กับอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆกัน
"เค้กมันไม่รู้หรอกว่าพี่รักอูฮยอนขนาดไหน"
"แล้วพี่รักเค้าแค่ไหนกันล่ะ"
"ก็.. เท่าฟ้ามั้ง"
พูดแค่นั้นก็เอนหลังลงไปพิงกับโซฟาท่าทางสบายใจ อูฮยอนเห็นแบบนั้นแล้วได้แต่บึ่นปากใส่ก่อนที่จะหลับตาลงแล้วอธิษฐานในใจเงียบๆ
ซองกยูที่เอาแต่จ้องมองภาพของอูอยอนที่กำลังตั้งใจขอพรบางอย่างด้วยท่าทางจริงจังจนเขาเผอลยิ้มตามไปด้วย
แสงเทียนสีส้มจากเทียนหลายเล่มดับลงทิ้งไว้เพียงควันบางที่ลอยไปตามอากาศ
อูฮยอนดูตื่นเต้นมากกับการควานหามีดกับจานเค้กที่วางอยู่ในถุงใต้โต้ะกระจกใส
"ให้เปิดไฟให้ไหม" ทักออกไปเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยของเขากำลังวุ่นวายเกินไปในการหาของในถุง
"ไม่เอา สลัวๆนี่แหละได้บรรยากาศดีละ เดี๋ยวต้นคริสต์มาสจะไม่เด่นเอา นี่ไงได้แล้ว" พูดจบก็ชูของในมืออวดคนเป็นพี่ในทันที เห็นไหมล่ะอูฮยอนหามีดตัดเค้กกับจานลองเจอโดยไม่ต้องเปิดไฟด้วยล่ะ
อูฮยอนจัดการตัดเค้กออกมาด้วยกันทั้งหมดสองชิ้นแต่ชิ้นของซองกยูจะมีขนาดที่เล็กมากกว่าของอูฮยอนเพราะว่าอูฮยอนนั้นรู้ดีว่าซองกยูนั้นไม่ค่อยชอบกินขนมหวานเท่าไหร่นัก ต่างจากอูฮยอนที่ชอบมันเอามากๆจนในบางครั้งที่อูฮยอนกินมันเยอะเกินไปแลัวก็จะโดนซองกยูล้อว่าเป็นเจ้าเด็กอ้วนอยู่บ่อยครัั้ั้ง
"อร่อยจัง งืมม..ทำไมพี่ถึงปล่อยให้เค้านั้งกินคนเดียวละ ทำไมไม่กินด้วยกัน "
กว่าคนตัวเล็กจะเอะใจหันกลับมามองคนข้างหลังอีกทีก็เล่นเอาเกือบสำลักออกมาเลยที่เดียว
ก็ซองกยูน่ะเอาแต่นั่งมองเค้ากินเฉยๆแล้วก็เอาแต่ยิ้มให้กันเหมือนคนบ้าเลย จ้องกันแบบนั้นมันก็รู้สึกเขินขึ้นมาทำตัวไม่ถูกสิ
"หนูก็รู้.." พูดทิ้งไว้แล้วก็ย้ายตัวเองเข้ามานั่งซ้อนหลังอูอยอนแทนก่อนที่จะสอดฝ่ามือหนาเข้าไปโอบกอดรอบเอวบางเอาไว้อย่างคนเอาแต่ใจ
"ว่าพี่ไม่อยากกินเค้ก... "
อูฮยอนได้ฟังแบบนั้นแล้วได้แต่เบะปากออกมาด้วยความมั่นใส้ ไม่อยากกินเค้กแล้วอยากกินอะไรหรอห๊ะคุณซองกยู ทำไมอูฮยอนถึงจะไม่รู้ล่ะว่าซองกยูนั้นต้องการอะไรกัน
ต่อให้วันนี้ในห้องนี้ไม่ได้ตบแต่งด้วยอะไรเลยสักอย่าง ยังไงซะอิตาลุงนี่ก็จะหาเรื่องให้เขาต้องเปลืองตัวอยู่ดีจนได้แหละ คนอย่างซองกยูน่ะแค่อ้าปากอูฮยอนก็เห็นไปถึงใส้ติ่งแล้ว แต่ยังไงก็เอาเหอะ ยังไงซะวันนี้ซองกยูก็อุส่าห์เตรียมเซอร์ไพร์สให้กันแล้วหนิ
งั้นอูฮยอนก็จะให้รางวัลเพื่อเป็นการตอบแทนซองกยูด้วยก็แล้วกัน
"แล้วพี่อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมล่ะ วันนี้หนูจะยอมทำให้พี่ทุกอย่างเลยนะ"
"ไม่ต้องก็ได้ พี่ต้องการแค่หนูก็พอ"
พูดจบซองกยูก็ก้มลงไปกดจูบที่ข้างแก้มเนียนของคนตัวเล็กกว่าในทันที อูฮยอนเองก็เอียงแก้มให้คนเป็นพี่ได้หอมอย่างว่าง่าย พรางกั้นขำอีกคนที่เอาแต่แกล้งหอมกันไม่หยุดพรางกอดรัดกันแน่นไม่ยอมปล่อยกันสักที
"รู้อยู่หรอก ไม่ต้องมาทำเป็นเจ้าเล่ห์"
"หรอ"
"อื้ม"
สิ้นบทสนทนาความเงียบเริ่มเข้าปกคลุม ซองกยูที่เอาแต่กดจูบลงมาที่แก้มใสเริ่มใช้สันจมูกโด่งไล่สูดดมกลิ้นกายแสนหนาวตามซอกคอขาวของตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด
ฝ่ามือหนาเริ่มซุกซนมากขึ้นคนตัวโตสอดมือเข้าไปข้างใต้เสื้อยืดตัวบางแล้วลูบไร้ผิวเนียนใต้เสื้อนั้นอย่างหลงไหล
อูฮยอนได้แต่นั่งเอนหลังซบพิงไปกับอกของของคนเป็นพี่หลับตาพริมเอียงกายให้พี่ชายได้เชยชมร่างกายของเขาอย่างถนัดด้วยท่าทางเคอะเขินแต่เคยชิน
อูฮยอนไม่แน่ใจว่าโค้ทสีชมพูตัวใหญ่ของเขาถูกอีกคนจัดการถอดทิ้งไปตั้งแต่ตอนไหน ซึ่งรู้ตัวอีกทีคือตอนที่ซองกยูนั้นกำลังจะจับร่างของเขาเอนลงไปนอนราบกับเบาะของโซฟาตัวใหญ่แล้วตามมาด้วยร่างหนาของใครอีกคนที่กำลังค่อมขึ้นมาหา
"พี่รักอูฮยอนนะครับ "
คือคำพูดที่ซองกยูกระซิบบอกกันที่ข้างหู หัวใจของอูฮยอนกระตุกเต้นแรงขึ้นมาในทันทีที่ได้ยินคำว่ารักจากปากของซองกยูสายตาหวานจ้องมองไปยังดวงหน้าคมของคนเป็นพี่ทั้งคู่สบตากันนิ่งไม่มีคำพูดแสนหวานใดๆตามมา
มีเพียงแค่เสียงของหัวใจของคนทั้งสองที่เต้นไปในจังหวะเดียวกัน อูฮยอนรับรู้และสัมผัสมันได้ว่าซองกยูนั้นรักเขาจริงจากใจ ฝ่ามือน้อยๆเอื้อมขึ้นไปลูบคล่ำใบหน้าหล่อของร่างหนาเบาๆเพื่อย้ำเตือนว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความฝันที่เขาคิดไปเอง
ก่อนที่จะส่งลอยยิ้มที่แสนน่ารักและเติมเปลี่ยมไปด้วยความสุขไปให้กับซองกยู
"อูฮยอนก็รักพี่ซองกยูมากเหมือนกันครับ"
สิ้นประโยคบอกรักของร่างบางซองกยูก็ค่อยๆโน้มใบหน้าลงมาประทับริมฝีปากน่ารักของอูฮยอนในทันที กีบปากนุ่มของคนตัวเล็กจูบตอบเขากลับมาก่อนที่คนเป็นพี่จะสอดลิ้นเข้าไปควานหาความหอมหวานพายในช่องปาก
ลิ้นเล็กดุดันกลับคืนมาซองกยูดูดมันเอาไว้ในจังหวะเดียวกันทั้งคู่ผัดกันแลกลิ้นสลับกันไปมาด้วยความเล่าร้อนของเปลวไฟแห่งความรัก
และคนตัวเล็กของซองกยูเองก็ดูเหมือนว่าจะจูบชำนาญมากขึ้นด้วยเหมือนกันจากแต่ก่อนที่เขาทั้งสองคนพึ่งเริ่มคบกันแรกๆซองกยูเองยังต้องเป็นคนคอยสอนอูฮยอนทั้งหมดเลยด้วยซ้ำว่าอะไรควรจะทำแบบไหน
ในตอนนั้นอูฮยอนเองก็ดูจะเป็นเด็กขี้อายและใหม่มากกับเรื่อบพันนี้
จนในบางครั้งเขาเองยังแอบรู้สึกผิดเลยล่ะ ถ้าเกิดว่าในตอนนั้นมีผีสักตนที่กำลังแอบมองพวกเขาระหว่างสอนกันอยู่ผีตนนั้นก็คงจะคิดหาว่าเขานั้นจับลูกชาวบ้านมารังแกอยู่แน่เลย
ซองกยูผลัดออกจากปากหวานแล้วเลื่อนลงมาจูบใต้คางไล่เลียลงมาตามคำคอขาว เขาใช้ฟันขบจูบไปมาซ้ำๆตามซอกคอทั้งสองข้างจนคนตัวเล็กเกิดเสียงร้องครางพายในลำคอด้วยความเคลิบเคลิ้ม
"ย..อย่าสิ มันจะแดง "
เสียงใสประท้วงขึ้นมาด้วยความขัดใจเมื่อเห็นว่าพี่ชายเอาแต่กดจูบตรงที่เดิมซ้ำๆเป็นเวลานานเกินไป
แต่ก็ดูเหมือนว่าซองกยูนั้นจะไม่ได้ฟังสิ่งที่อูฮยอนกำลังพูดอยู่เลย
ซองกยูเองเห็นท่าทีโววายของคนตัวเล็กแล้วก็ได้แต่นึกขำ เขาเองก็อยากจะบอกกับอูฮยอนด้วยเหมือนกันว่าหนูไม่ต้องมาดุพี่หรอก เพราะมันไม่ทันแล้ว แต่ซองกยูก็จะเงีบยมันเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน
ร่างหนาเลิกเสื้อของอูอยอนขึ้นมาไว้เหนืออกเผยร่างบางที่ไร้ซึ่งสิ่งปกปิดใดๆสู่สายตาของอีกคนในทันที ซองกยูเอื้อมใบหน้าขึ้นมาจูบปิดปากของอูฮยอนเอาไว้อีกครั้งเหมือนการบอกเป็นในๆว่าห้ามอูฮยอนคัดค้านเขาใดๆก็ตามแต่ ก่อนที่จะก้มลงไปกดจูบลงที่ยอดอกสีหวานของอีกฝ่าย
เขาใช้ลิ้นสะกิดเลียมันไปมามือหนาเลื้อนลงไปปลดกระดุมกางเกงของคนตัวเล็กออกแล้วค่อยๆทำการลูดซิบมันลงช้าๆอย่างคนใจเย็น
"อืมม.. "
อูฮยอนร้องค้างออกมาด้วยความวาบหวามพายในกายและหัวใจดวงน้อยด้วยสัมผัสของซองกยูที่มอบให้
ร่างบางห่อตัวรับริมฝีปากของอีกคนที่กำลังกดจูบลงมายังตัวของเขายอดอกสีหวานที่ตอนนี้ตั้งชันขึ้นจากผลของลิ้นเจ้าเล่ห์ที่กำลังโลมเล้าตรงส่วนนั้นจนทำให้อูฮยอนรู้สึกสยิวไปทั้งตัวและเริ่มหายใจลำบากขึ้น
ซองกยูทำการถอดกางเกงของร่างบางแล้วจัดการโยนมันทิ้งไปอย่างไม่ใยดี เผยให้เห็นร่างบางที่กำลังนอนเปลือยเปล่าท่อนล่างไร้สิ่งปกปิดใดๆ
หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นร่างสวยงามของคนรัก ความร้อนเริ่มเพิ่มขึ้นมาในกายในขณะที่จ้องมองไปยังอีกคนและอูฮยอนที่กำลังนอนหอบหายใจอยู่ใต้ร่างของเขา
"พี่จ๋า..."
เด็กน้อยเริ่มขี้แยและเอียงอายขึ้นมาเมื่อโดนสายตาของคนเป็นเป็นพี่จ้องมองกันนานเกินไปยังกับว่าจะจับเขากินอย่างงั้นแหละ
แววตาของซองกยูที่ส่องประอยู่ตรงหน้าอูฮยอนตอนนี้มันชัดเจนจนร่างบางรับรู้เลยว่าอีกคนนั้นกำลังต้องการเขามากมายเพียงใด
ซองกยูจับสองแขนของอูฮยอนมาเกี่ยวรัดที่ต้นคอของเขาเอาไว้ แล้วค่อยๆดึกอีกคนขึ้นมานั่งบนตักในจังหวะเดียวกัน ร่างบางของคนตัวเล็กกว่าก็ใช้ขาทั้งสองข้างของตัวเองเกี่ยวรัดเข้าที่เอวหนาของคนเป็นพี่อย่างรู้งานในทันที
ในช่วงเวลานี้ถึงแม้ว่าอูฮยอนเองจะยังคงรู้สึกเขินอายอยู่บ้างแต่อูฮยอนก็จะไม่แสดงมันออกมา เพราะอูฮยอนอยากให้ซองกยูมีความสุข
ในคืนที่แสนเหน็บหนาวนี้ต่อให้ร่างทั้งร่างของอูฮยอนนั้นถูกแช่แข็งจนตายเขาก็จะโอบกอดซองกยูเอาไว้
ดวงตาเรียวคมของซองกยูจ้องมองมายังอีกคนสบตากันนิ่งอย่างสื่อความหมายร่างบางประคองใบหน้าของคนตัวโตเอาไว้ด้วยความรู้สึกโหยหาก่อนที่ทั้งคู่จะค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าหากันประทับริมฝีปากส่งมอบรสจูบอันร้อนแรงที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความหอมหวานให้กันและกัน
กางเกงตัวใหญ่ถูกถอดทิ้งไปเหลือไว้เพียงกายที่ไร้สิ่งปิดกั้นร่างหนาจัดการชักรูดแกรนกายของตัวเองนั้นสองสามทีแล้วจ่อมันเอาไว้ตรงช่องทางรักของคนตัวเล็กกว่าก่อนที่อีกคนนั้นจะค่อยๆนั่งทับมันลงมาอย่างช้าๆ
กายหนาค่อยๆถูกร่างบางกลืนกินเข้าไปข้างในร่างกายของอูฮยอนโอบรัดกายหนาของซองกยูแน่นจนคนเป็นพี่นั้นต้องร้องครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างอดกั้นไม่ได้
"ซี๊ดด.. อ๊าา.. "
อูฮยอนเบียดหน้าท้องแบนราบแนบชิดกับร่างหนาของอีกคนพรางให้สองมือจับไหล่กว้างของคนตัวโตเอาไว้เพื่อเป็นที่ยึดเกาะก่อนที่ร่างบางนั้นจะค่อยๆทำการขยับสะโพกไปมาช้าๆบนหน้าตักของคนเป็นพี่อย่างยั่วยวน
"อ๊ะ..อ้า.. "
เสียงใสครางสั่นออกมาความความเสียวไปทั้งกายเมื่อเอวบางทำการขยับสะโพกไปมาเป็นจังหวะที่เร็วขึ้นเรื่ยๆตามแรงอารมณ์
ความรู้สึกอบอวนและร้อนรุ่มข้างในกายที่กำลังโอบรัดแกรนหนาของซองกยูเอาไว้ อูฮยอนรู้สึกวาบหวามไปทั่วทั้งกายจนร่างบางนั้นหยุดขยับเอวไปมาไม่ได้
"อืมม.. "
ซองกยูครางต่ำออกมาด้วยความรู้สึกที่เสียซ่านไม่ต่างกัน มือทั้งสองของเขาจับเอวบางเอาไว้แน่น พรางซุกหน้าเข้าหากดจูบที่ซองคอขาวทั้งสองข้างสลับกันไปมา
ความเสียดสีพายในกายที่ตอดรัดสร้างความเสียวซ่านแล่นผ่านไปทั่วทั้งตัวก่อนที่ซองกยูจะทนไม่ไหวกับสิ่งที่อูฮยอนมอบให้ ร่างหนากดให้อีกคนนอนหงายลงไปกับเบาะของโซฟาตัวหนาตามด้วยร่างหนาที่คร่อมต่ำตามลงมา
อูฮยอนกอดโอบกอดรอบคอคนเป็นพี่เอาไว้แน่น ซองกยูกดจูบลงที่ริมฝีปากอิ่มของอีกคนซ้ำๆสอดลิ้นควานหาความหวานพายในโพรงปากจนคนตัวเล็กนั้นแทบขาดอากาศหายใจ
"อ๊าาาา..อ้าา "
ร้องครางออกมาอย่างสุดจะอดกั้นเมื่อคนเป็นพี่ทำการขยับสะโพกรัวเร็วเข้ามายังช่องทางที่ยังเชื่อมติดกันอยู่
"แมรี่คริสต์มาสครับที่รัก"
ซองกยูก้มลงไปกระซิบเบาๆที่ข้างหูของอูฮยอนแล้วจูบซับลงไปที่ข้างแก้มเนียนใส
อูฮยอนพยักหน้ารับคำของอีกคนพร้อมกับรอยยิ้มแสนน่ารักกับความสุขแสนจะพิเศษที่เขานั้นได้รับในวันนี้
ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ซองกยูก็ยังคงเป็นซองกยู คนที่คิดถึงแต่อูฮยอนก่อนเสมอ ถึงแม้ในบางครั้งจะมีละเลยใจกันไปบ้างแค่สิ่งที่เด่นชัดไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนั้นก็คือ ซองกยูนั้นรักอูฮยอน และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้อูฮยอนนั้นมีความสุขและยิ้มกลับมาให้กัน
มันก็แค่นั้น เพราะความสุขของซองกยูคือการที่ได้เห็นลอยยิ้มของอูฮยอน
บทเพลงแห่งความรักยังคงบรรเลงต่อไปท่ามกลางสายลมหนาวที่พัดเกร็ดหิมะอ่อนนุ่มลอยลงมาตามท้องอากาศ แสงไฟสีทองยังคงสะท้อนกับแสงของดาวดวงเด่นบนปลายยอดต้นคริสต์มาสเป็นประกาย
ก่อนที่ซองกยูจะจับมือนั้นเอาไว้แล้วนำพาอูฮยอนลอยขึ้นไปแตะตรงขอบฝั่งฟ้า ความสุขมากล้นที่ทั้งสองมอบให้ซึ่งกันและกันในค่ำคืนนี้ล้นปี่ไปทั้งกายใจ
อูฮยอนนอนแผ่ใต้ร่างของซองกยูหลับตาพริมหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน
ลอยยิ้มบางๆผุดขึ้นมาเปื้อนหน้าอย่างรู้สึกขอบคุณอีกฝ่ายที่อยู่ตรงหน้าที่เฝ้าทำอะไรตั้งหลายอย่างให้กันตลอดมา
ทั้งความเหงาความน้อยใจที่อูฮยอนเคยมีต่อซองกยูที่ผ่านมานั้นมันได้ละลายหายไปจนหมดแล้ว หายไปทั้งแต่วินาทีแรกทีได้เห็นสิ่งที่อีกคนนั้นเตรียมไว้เพื่อกัน
อูฮยอนรู้ตัวเองดีว่าเขานั้นเรียกร้องพี่ชายให้มาเอาอกเอาใจกันมากเกินไป ทั้งๆทีรู้ดีอยู่แล้วว่าอีกคนนั้นต้องทำงานและต้องแบกรับอะไรๆไว้ตั้งหลายอย่าง แต่มันก็เพราะว่าอูฮยอนนั้นรักซองกยูมาก มันก็เลยทำแบบนั้นลงไป
แต่ต่อจากนี้อูอยอนจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วอูฮยอนจะทำตัวใหม่เพื่อเป็นคนที่คู่ควรกับความรักของซองกยู
ซองกยูจ้องมองดวงหน้าใสนิ่งก่อนที่เขาจะก้มลงไปจูบซับที่หน้าผากมลของร่างบางด้วยความรักที่มีต่ออีกคนอย่างสุดหัวใจ จากนั้นก็ก้มต่ำลงไปกดปลายจมูกลงยังแก้มนิ่มทั้งสองข้าง แล้วเลื่อนไปประกบริมฝีปากบางอวมอิ่มนั้นเอาไว้ส่งผ่านความรักทั้งหมดที่เขามีให้อีกคนได้รับรู้
ก่อนที่จะจับมือของอีกคนขึ้นมาแล้วสวมส้อยข้อมือเส้นบางสีเงินที่มีจี้รูปดาวทรงเรียบติดอยู่ ซองกยูค่อยๆบรรจงส่วมมันให้กับอูฮยอน อูฮยอนยกมืออีกข้างขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้ด้วยความรูสึดีใจ ตกใจ และตื่นเต้น หลายๆอย่างมารวมกันอย่างบอกไม่ถูก นี่คงจะเป็นอีกหนึ่งของขวัญวันคริสมาสที่อีกคนเตรียมไว้ให้กันสินะ นึกไม่ถึงเลย
"พี่ขอโทษนะครับ ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีเวลาให้ไอ้อ้วนเลย ขอโทษที่ทิ้งให่ไอ้อ้วนเหงาขอบคุณที่รอกันนะครับที่รัก
จบคำพูดของซองกยู อูฮยอนได้แต่ยิ้มพยักหน้ารับคำของคนเป็นพี่ด้วยหัวใจที่เต้นรัวและสุขล้นจนไม่สามารถบรรยายออกมเป็นคำพูดได้ ก่อนที่จะดึกใบหน้าของพี่ชายเข้ามากดจูบเอาไว้แทนคำว่ารักที่มีให้ร้อยพันคำ
"ต่อจากนี้ไปเค้าจะไม่ดื้อกับพี่อีแล้วสัญญาใจเลยขอบคุณที่ทำทุกอย่างให้กันมาโดยตลอด แมรี่คริสต์มาสครับที่รักของอูฮยอน "
"แมรี่คริสต์มาสครับที่รักของซองกยู "
ทั้งคู่โอบกอดกันเอาไว้ท่ามกลางค่ำคืนที่แสนเหน็หนาว ที่ปลุกคลุมไปด้วยกลิ้นอายของความสุขในวันคริสต์มาส
ถ้าหากว่าสำหรับซองกยูนั้นความสุขคือการได้เห็นลอยยิ้มของอูฮยอน ความสุขสำหรับอูฮยอนก็คือการได้อยู่เคียงข้างซองกยูเช่นกัน แมรี่คริสต์มาส
-END-
สวัสดีค่ะทุกคนนี่คือของขวัญวันคริสมาสของเราและสำหรับการคัมแบคในรอบ1ปี4เดือนของINFINITEด้วย
ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันคริสต์มาสและในวันปีใหม่ที่จะถึงนี้ด้วยนะคะ
//สามมารถพูดคุยกันได้ที่TW @/aodaed_04
ภาพทุกอย่างยังคงสะท้อนเข้ามาในดวงตาคู่สวยของชายหนุ่มวัยเยาว์กับกลิ่นหอมอวนของคาเฟ่ลาเต้ร้อนลอยขึ้นมาในยามที่เจ้าตัวจ่อแก้วขึ้นที่ปลายคาง ในคาเฟ่เล็กๆริมข้างทางที่ผู้คนบางตา
ความเงียบสงบในมุมเล็กๆภายในร้านชั่งแตกต่างจากข้างในจิตใจของเขาที่กำลังยุ่งเหยิงในตอนนี้ สายตาที่ทอดมองยาวออกไปนอกหน้าต่างบานใสสลับกับอีกมุมที่อยู่ตรงหน้าเก้าอี๋ไม้อีกตัวที่ไร้คนนั่ง 'ความเหงา' คือคำตอบที่เขาค้นพบกับตัวเองเมื่อตอนที่ใครบางคนนั้นไม่ได้อยู่ข้างกายกัน
กับความสัมพันธ์ที่หวานหยดแต่ยากจะเข้าใจ ในขณะที่เด็กมัธยมปลายปี3คนอื่นกำลังวุ่นวายกับการเอ็นทรานซ์เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับต่อไปแต่เขากับมานั่งคิดฟุ้งซ่านเรื่องรักๆไคร้ๆที่แสนจะไร้สาระและ 'ไร้ค่า'ที่สุด บางทีเขาอาจจะเสียเวลาให้กับความสัมพันธ์ฉาบฉวยนี้มากเกินไป....
..คลืนน~
เสียงโทรศัพท์เครื่องบางสั่นพร้อมปรากฎข้อความประโยคสั้นๆจากเบอร์ที่คุ่นตา
'มาหาหน่อยดิ จะรอหนูที่ห้องนะ'
รอยยิ้มบางๆเย้ยขึ้นที่มุมปากความรู้สึกดีใจและหน่วงใจเกิดขึ้นมาในเวลาเดียวกัน หึ ไปหางั้นหรอ ทำไมเขาถึงต้องถ่อไปหาอีกคนเพียงเพราะข้อความง่ายๆสั้นๆที่ไร้ซึ้งความใส่ใจนี่ด้วยล่ะ
ถ้าเกิดว่าคนๆนั้นคิดถึงกันจริงๆก็น่าจะมาหากันเองแล้วสิ
ทำไมต้องเป็นเขาตลอดด้วยที่ต้องเป็นฝ่ายเดินเข้าหาอีกคนก่อนเรื่อยมา
ในช่วงเทศกาลสำคัญแบบนี้น่าจะเป็นอีกคนมากกว่าไหมที่เป็นฝ่ายมาหาหรือไม่ก็แค่ขับรถมารับกันเฉยๆก็ได้หนิ เขาเบื่อที่จะเป็นฝ่ายเข้าหาซองกยูก่อนแล้ว
ร่างเล็กของอูฮยอนฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะไม้ด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน
เขารู้สึกเหนื่อยล้าและหนาวหัวใจมากมายอย่างบอกไม่ถูก ในเวลานี้ถ้าหากว่ามีใครสักคนที่สามารถให้เขาซบกอดพึ่งพิงไออุ่นนั้นได้มันก็คงดีไม่น้อย
ร่างบางหลับตาพริมพรางนึกถึงเรื่องราวหลายๆอย่างที่ผ่านเข้ามาในช่วงไม่กี่เดือนนี้ เด็กมัธยมปลายอย่างเขาที่พึ่งจะโดนคนที่แก่กว่ากันตั้งเกือบ5ปีตามเตาะเหมือนเงา จนสุดท้ายก็เป็นตัวอูฮยอนเองที่เผลอตัวเผลอใจไปกับอีตาลุงคนนั้นจนได้ ทุกๆอย่างมันไวเกินไปจนเขาเองรู้สึกไม่แน่ใจเลยว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้มันจะมีตอนต่อไปเป็นเช่นไร ขนาดตอนนี้มันพึ่งจะเริ่มต้นเองแท้ๆเขายังรู้สึกเหงาและเหนื่อยกับมัน คนๆนั้นที่เอาแต่ติดงานจนบ่อยครั่งไม่มีแม้แต่เวลามาสนใจดูดำดูดีกัน
ในช่วงที่หิมะกำลังโปรยปลายปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ซองกยูไม่รู้หรอกว่าอูฮยอนนั้นเหงาแค่ไหน อูฮอนต้องการมากกว่านี้ต้องการเวลาให้อีกคนเอาใจใส่กันบ้างหรือจะเป็นอะไรก็ได้ที่มากกว่าข้อความที่ว่า'คิดถึงนะ มาหาหน่อย' เหอะ มันน่าน้อยใจไหมล่ะ แล้วไอ้คิดถึงที่ว่านี่มันคิดถึงแบบไหนกัน ซองกยูน่ะคิดถึงเขาหรือว่าคิดถึงเซ็กซ์กันแน่....
...คลืนนน~
'รออยู่นะ '
เป็นอีกประโยคสั้นๆของคนเป็นพี่ที่ส่งเข้ามาหา ยังไงซะซองกยูก็จะจี้ให้อูฮยอนไปหาให้ได้จริงๆสินะ
ตาสวยจ้องมองข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือแบนด์ผลไม้เครื่องหรูแล้วได้แต่ยิ้มเยาะให้ตัวเองเป็นครั้งที่สองก่อนที่จะลุกขึ้นเก็บข้าวของที่วางกระจายบนโต๊ะเข้ากระเป๋าเป้ใบเล็ก
สุดท้ายแล้วเขาก็ใจอ่อนให้กับความขี้ตื๊อของอิตาลุงคนนั้น เป็นอีกครั้งและอีกครั้งที่ซองกยูร้องขอแล้วอูฮยอนก็ทำตามโดยที่ไม่แม้แต่เอ่ยปากขัดใดๆสักคำ
ก็เออ..ไปก็ไปสิ ต่อให้ในใจตอนนี้อูฮยอนจะอยากหายตัวหนีกลับไปนอนซุกผ้าห่มอุ่นๆที่บ้านแทนการไปเปลืองตัวให้อีกคนก็เหอะ
แต่อูฮยอนก็เลือกที่จะไปหาซองกยู
ค่ำคืนแห่งความสุขของใครหลายๆคนใกล้จะมาถึง กับแสงไฟสลัวหลากสีสันที่ประดับตบแต่งตามข้างทางดูสวยงามเข้ากับบรรยากาศคริสต์มาส ในยามที่สายลมหนาวกระทบร่างบางที่ยืนอยู่หน้าตึกสูง แก้มใสเย็นเฉียบยามที่สายลมพัดผ่าน
อูฮยอนกระชับเสื้อโค้ชตัวหนาสีชมพูน่ารักด้วยอาการหนาวสั่นก่อนที่จะก้าวเดินเข้าไปยังตัวอาคารเบื่องหน้าจุดมุ่งหมายต่อไปคือชั้นสิบห้าและห้องของซองกยู
ขาเรียวหยุดยืงหน้าประตูบานใหญ่มือน้อยล่วงเข้าไปในเป้ใบเล็กยิบคีย์การ์ดสีดำทรงเรียบที่คนๆนั้นเคยทิ้งไว้ให้ ก่อนที่จะใช้มันเปิดประตูแล้วดันมันเข้าไป...
ข้างในห้องมืดสนิดและเงียบอย่างกับห้องร้างกลางหุบเขา ทำไมไม่เปิดไฟล่ะ อย่าบอกนะว่าดึกป่านนี้แล้วซองกยูยังไม่เลิกงานอีก? หรือว่าออกไปธุระที่ไหนสักที่แล้วยังไม่กลับเข้ามา เหอะ แค่นึกถึงสาเหตุอูฮยอนก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เอาซะเลย คงไม่ใช่ว่าจะให้เขามารอที่ห้องหรอกนะ คิม ซองกยู
ร่างบางของอูฮยอนเดินเข้าไปยังด้านในส่วนที่เป็นห้องรับแขกด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวพรางนึกเคลืองใจให้กับอีกคนที่นัดกันเอาไว้
แต่แล้วร่างบางก็ต้องหยุดชะงักในทันทีเมื่อเห็นภาพที่สะท้อนอยู่ตรงหน้า ท่ามกลางความมืดมีเค้กสตอเบอรี่ก้อนโตจุดเทียนส่องแสงสว่างวางอยู่ตรงกลางโต๊ะข้างๆมีกระดาษโน๊ตเลิกๆสีฟ้าอ่อนเขียนเอาไว้
ก่อนที่อูฮยอนจะเอื้อมมือลงไปยิบกระดาษแผ่นเล็กนั้นขึ้นมาอ่าน 'You are mine' คือข้อความที่ปรากฏอยู่ในโน๊ตแผ่นเล็กที่ถูกเขียนด้วยลายปากกากากๆที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นลายมือของใคร
อูฮยอนจ้องมองข้อความนั้นแล้วใบหน้าก็เกิดลอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นมาอย่างหุบไม่ได้ อีตาลุงบ้านี่ก็มีมุมโรแมนติกกับชาวบ้านเขาด้วยเหอะ อูฮยอนไม่ค่อยชินเลย
ในขณะเดียวกันแสงไฟสีทองเล็กๆหลายร้อยดวงก็ส่องสว่างขึ้นมาอย่างกระทันหันร่างน้อยของอูอยอนสะดุ้งด้วยความตกใจ
แต่แล้วเมื่อหันมองไปรอบๆตัวอูฮยอนเองก็พบว่าบริเวณโดยรอบทั้งหมดนั้นถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟสีสวยเป็นร้อยๆดวงส่งแสงระยิบระยับท่ามกลางความมืดดั่งแสงของหิงห้อยที่ลอยไปมาในท้องฟ้ามืดไม่มีผิด
ตรงมุมห้องใกล้ๆมีต้นสนต้นนึงขนาดที่ใหญกว่าตัวเขาเล็กน้อยถูกตั้งเอาไว้ รอบต้นก็ถูกประดับเต็มไปด้วยแสงไฟสีทองด้วยเช่นเดียวกันโดยรอบๆต้นมีลูกบอลสีแดงแล้วก็ระฆังเล็กๆติดอยู่เต็มไปจนถึงตรงยอดสูงสุดของต้นที่มีดวงดาวส่องแสงประกายอยู่ตรงนั้น
ทุกอย่างน่าประทับใจที่สุด อย่าบอกนะว่าอีกคนเป็นคนทำมันให้กับเขา.....
ในขณะที่กำลังยืนนิ่งเก็บเกี่ยวความสวยงามนั้นอยู่อูฮยอนก็ถูกมือหนาของใครบางคนดึงจากทางด้านหลังเข้าไปโอบกอดเอาไว้พร้อมกับเอาในหน้าเข้ามาซุกไซ้ที่ซอกคอขาวของเขาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
"อุ๊ย!!"
"ชอบหรือเปล่าหื้ม.." คือเสียงที่ใครอีกคนกระชิบเบาๆที่ขัางหูของเขาก่อนที่จะกดจูบลงมาบนแก้มเนียน
อูฮยอนมีท่าทีตกใจเล็กน้อยร่างบางหันหน้าไปเผชิญกับคนที่อยู่ด้านหลัง โดยไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่าคนๆนั้นคือใครเพราะอูอยอนนั้นคุ้นชินกับอ้อมกอดของซองกยูดี
"ชอบมากเลยล่ะ" อูฮยอนเอื้อมแขนเข้ามากอดตอบซองกยูในทันทีร่างบางซุกใบหน้าเข้าหาอกแกร่งซึมซับอ้อมกอดนั้นเอาไว้ก่อนที่จะใช้ฝ่ามือเล็กตุบตีมันเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้
"ตอนเค้าเดินเข้ามานึกว่าพี่ไม่อยู่ซะอีก ไม่คิดเลยว่าจะเซอร์ไพร์สกันแบบนี้"
"แล้วทำไมถึงมาช้าจังล่ะ พี่รอหนูตั้งนาน"
"รอแค่นี้ไม่ได้หรอ"
"ได้สิ พี่น่ะรอไอ้อ้วนได้ทั้งคืนเลยนะ " พูดจบก็ก้มลงมาฟัดแก้มยุ้ยๆของร่างเล็กในอ้อมกอดทันที
"เด่วเหอะ ใครอ้วนห๊ะ!" อูฮยอนหันหน้าหนีไปอีกทางไม่ยอมให้คนเป็นพี่ได้หอมเขาได้ดี พรางส่งตาเขียวไปให้อีกคนที่พึ่งจะหาว่าเขาอ้วนไปเมื่อกี้
ซองกยูเห็นหน้างอๆของอูฮยอนแล้วก็ได้แต่กั้นขำเอาไว้ข้างใน แล้วจึงลากคนตัวเล็กให้ลงไปนั่งที่โซฟาตัวใหญ่พร้อมกัน
"อธิษฐานแล้วเป่าเทียนสิ" ซองกยูชี้นิ้วไปที่เค้กสตอเบอรี่ก้อนโตแล้วส่งยิ้มน้อยๆไปให้อูฮยอน
อูฮยอนจ้องมองเค้กก้อนใหญ่สหลับไปมากับใบหน้าของซองกยูอย่างไม่เชื่อตาด้วยความแปลกใจ
ตลอดระยะเวลาที่คบเป็นแฟนกันมาไม่เคยมีเลยสักครั้งที่ซองกยูจะแสดงหรือกระทำอะไรที่บงบอกว่าเจ้าตัวนั้นเป็นคนชอบความโรแมนติกเลย กลับกันสิ่งที่ซองกยูทำให้ในวันนี้มันทำให้อูฮยอนรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
บ่อยครั้งที่คนเป็นพี่ชอบละเลยและไม่ค่อยมีเวลาจะสนใจกันแปลกที่เรื่องน้อยใจพวกนั้นมันกลับละลายหายไปอย่างกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
และในคืนนี้ต่อให้ไม่มีแสงไฟสีทองร้อยๆดวงไม่มีต้นคริสต์มาสต้นใหญ่
เป็นแค่เค้กสตอเบอรี่ก้อนเดียวอูฮยอนก็จะรู้สึกว่าตัวเองมีค่ามากมายกับซองกยูแล้ว
"อธิษฐานว่าไงดี ขอให้พี่ซองกยูรักอูฮยอนมากๆดีไหม" อูฮยอนยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาประสานกันเอาไว้ที่หน้าอกส่งยิ้มน่ารักให้กับอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆกัน
"เค้กมันไม่รู้หรอกว่าพี่รักอูฮยอนขนาดไหน"
"แล้วพี่รักเค้าแค่ไหนกันล่ะ"
"ก็.. เท่าฟ้ามั้ง"
พูดแค่นั้นก็เอนหลังลงไปพิงกับโซฟาท่าทางสบายใจ อูฮยอนเห็นแบบนั้นแล้วได้แต่บึ่นปากใส่ก่อนที่จะหลับตาลงแล้วอธิษฐานในใจเงียบๆ
ซองกยูที่เอาแต่จ้องมองภาพของอูอยอนที่กำลังตั้งใจขอพรบางอย่างด้วยท่าทางจริงจังจนเขาเผอลยิ้มตามไปด้วย
แสงเทียนสีส้มจากเทียนหลายเล่มดับลงทิ้งไว้เพียงควันบางที่ลอยไปตามอากาศ
อูฮยอนดูตื่นเต้นมากกับการควานหามีดกับจานเค้กที่วางอยู่ในถุงใต้โต้ะกระจกใส
"ให้เปิดไฟให้ไหม" ทักออกไปเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยของเขากำลังวุ่นวายเกินไปในการหาของในถุง
"ไม่เอา สลัวๆนี่แหละได้บรรยากาศดีละ เดี๋ยวต้นคริสต์มาสจะไม่เด่นเอา นี่ไงได้แล้ว" พูดจบก็ชูของในมืออวดคนเป็นพี่ในทันที เห็นไหมล่ะอูฮยอนหามีดตัดเค้กกับจานลองเจอโดยไม่ต้องเปิดไฟด้วยล่ะ
อูฮยอนจัดการตัดเค้กออกมาด้วยกันทั้งหมดสองชิ้นแต่ชิ้นของซองกยูจะมีขนาดที่เล็กมากกว่าของอูฮยอนเพราะว่าอูฮยอนนั้นรู้ดีว่าซองกยูนั้นไม่ค่อยชอบกินขนมหวานเท่าไหร่นัก ต่างจากอูฮยอนที่ชอบมันเอามากๆจนในบางครั้งที่อูฮยอนกินมันเยอะเกินไปแลัวก็จะโดนซองกยูล้อว่าเป็นเจ้าเด็กอ้วนอยู่บ่อยครัั้ั้ง
"อร่อยจัง งืมม..ทำไมพี่ถึงปล่อยให้เค้านั้งกินคนเดียวละ ทำไมไม่กินด้วยกัน "
กว่าคนตัวเล็กจะเอะใจหันกลับมามองคนข้างหลังอีกทีก็เล่นเอาเกือบสำลักออกมาเลยที่เดียว
ก็ซองกยูน่ะเอาแต่นั่งมองเค้ากินเฉยๆแล้วก็เอาแต่ยิ้มให้กันเหมือนคนบ้าเลย จ้องกันแบบนั้นมันก็รู้สึกเขินขึ้นมาทำตัวไม่ถูกสิ
"หนูก็รู้.." พูดทิ้งไว้แล้วก็ย้ายตัวเองเข้ามานั่งซ้อนหลังอูอยอนแทนก่อนที่จะสอดฝ่ามือหนาเข้าไปโอบกอดรอบเอวบางเอาไว้อย่างคนเอาแต่ใจ
"ว่าพี่ไม่อยากกินเค้ก... "
อูฮยอนได้ฟังแบบนั้นแล้วได้แต่เบะปากออกมาด้วยความมั่นใส้ ไม่อยากกินเค้กแล้วอยากกินอะไรหรอห๊ะคุณซองกยู ทำไมอูฮยอนถึงจะไม่รู้ล่ะว่าซองกยูนั้นต้องการอะไรกัน
ต่อให้วันนี้ในห้องนี้ไม่ได้ตบแต่งด้วยอะไรเลยสักอย่าง ยังไงซะอิตาลุงนี่ก็จะหาเรื่องให้เขาต้องเปลืองตัวอยู่ดีจนได้แหละ คนอย่างซองกยูน่ะแค่อ้าปากอูฮยอนก็เห็นไปถึงใส้ติ่งแล้ว แต่ยังไงก็เอาเหอะ ยังไงซะวันนี้ซองกยูก็อุส่าห์เตรียมเซอร์ไพร์สให้กันแล้วหนิ
งั้นอูฮยอนก็จะให้รางวัลเพื่อเป็นการตอบแทนซองกยูด้วยก็แล้วกัน
"แล้วพี่อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมล่ะ วันนี้หนูจะยอมทำให้พี่ทุกอย่างเลยนะ"
"ไม่ต้องก็ได้ พี่ต้องการแค่หนูก็พอ"
พูดจบซองกยูก็ก้มลงไปกดจูบที่ข้างแก้มเนียนของคนตัวเล็กกว่าในทันที อูฮยอนเองก็เอียงแก้มให้คนเป็นพี่ได้หอมอย่างว่าง่าย พรางกั้นขำอีกคนที่เอาแต่แกล้งหอมกันไม่หยุดพรางกอดรัดกันแน่นไม่ยอมปล่อยกันสักที
"รู้อยู่หรอก ไม่ต้องมาทำเป็นเจ้าเล่ห์"
"หรอ"
"อื้ม"
สิ้นบทสนทนาความเงียบเริ่มเข้าปกคลุม ซองกยูที่เอาแต่กดจูบลงมาที่แก้มใสเริ่มใช้สันจมูกโด่งไล่สูดดมกลิ้นกายแสนหนาวตามซอกคอขาวของตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด
ฝ่ามือหนาเริ่มซุกซนมากขึ้นคนตัวโตสอดมือเข้าไปข้างใต้เสื้อยืดตัวบางแล้วลูบไร้ผิวเนียนใต้เสื้อนั้นอย่างหลงไหล
อูฮยอนได้แต่นั่งเอนหลังซบพิงไปกับอกของของคนเป็นพี่หลับตาพริมเอียงกายให้พี่ชายได้เชยชมร่างกายของเขาอย่างถนัดด้วยท่าทางเคอะเขินแต่เคยชิน
อูฮยอนไม่แน่ใจว่าโค้ทสีชมพูตัวใหญ่ของเขาถูกอีกคนจัดการถอดทิ้งไปตั้งแต่ตอนไหน ซึ่งรู้ตัวอีกทีคือตอนที่ซองกยูนั้นกำลังจะจับร่างของเขาเอนลงไปนอนราบกับเบาะของโซฟาตัวใหญ่แล้วตามมาด้วยร่างหนาของใครอีกคนที่กำลังค่อมขึ้นมาหา
"พี่รักอูฮยอนนะครับ "
คือคำพูดที่ซองกยูกระซิบบอกกันที่ข้างหู หัวใจของอูฮยอนกระตุกเต้นแรงขึ้นมาในทันทีที่ได้ยินคำว่ารักจากปากของซองกยูสายตาหวานจ้องมองไปยังดวงหน้าคมของคนเป็นพี่ทั้งคู่สบตากันนิ่งไม่มีคำพูดแสนหวานใดๆตามมา
มีเพียงแค่เสียงของหัวใจของคนทั้งสองที่เต้นไปในจังหวะเดียวกัน อูฮยอนรับรู้และสัมผัสมันได้ว่าซองกยูนั้นรักเขาจริงจากใจ ฝ่ามือน้อยๆเอื้อมขึ้นไปลูบคล่ำใบหน้าหล่อของร่างหนาเบาๆเพื่อย้ำเตือนว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความฝันที่เขาคิดไปเอง
ก่อนที่จะส่งลอยยิ้มที่แสนน่ารักและเติมเปลี่ยมไปด้วยความสุขไปให้กับซองกยู
"อูฮยอนก็รักพี่ซองกยูมากเหมือนกันครับ"
สิ้นประโยคบอกรักของร่างบางซองกยูก็ค่อยๆโน้มใบหน้าลงมาประทับริมฝีปากน่ารักของอูฮยอนในทันที กีบปากนุ่มของคนตัวเล็กจูบตอบเขากลับมาก่อนที่คนเป็นพี่จะสอดลิ้นเข้าไปควานหาความหอมหวานพายในช่องปาก
ลิ้นเล็กดุดันกลับคืนมาซองกยูดูดมันเอาไว้ในจังหวะเดียวกันทั้งคู่ผัดกันแลกลิ้นสลับกันไปมาด้วยความเล่าร้อนของเปลวไฟแห่งความรัก
และคนตัวเล็กของซองกยูเองก็ดูเหมือนว่าจะจูบชำนาญมากขึ้นด้วยเหมือนกันจากแต่ก่อนที่เขาทั้งสองคนพึ่งเริ่มคบกันแรกๆซองกยูเองยังต้องเป็นคนคอยสอนอูฮยอนทั้งหมดเลยด้วยซ้ำว่าอะไรควรจะทำแบบไหน
ในตอนนั้นอูฮยอนเองก็ดูจะเป็นเด็กขี้อายและใหม่มากกับเรื่อบพันนี้
จนในบางครั้งเขาเองยังแอบรู้สึกผิดเลยล่ะ ถ้าเกิดว่าในตอนนั้นมีผีสักตนที่กำลังแอบมองพวกเขาระหว่างสอนกันอยู่ผีตนนั้นก็คงจะคิดหาว่าเขานั้นจับลูกชาวบ้านมารังแกอยู่แน่เลย
ซองกยูผลัดออกจากปากหวานแล้วเลื่อนลงมาจูบใต้คางไล่เลียลงมาตามคำคอขาว เขาใช้ฟันขบจูบไปมาซ้ำๆตามซอกคอทั้งสองข้างจนคนตัวเล็กเกิดเสียงร้องครางพายในลำคอด้วยความเคลิบเคลิ้ม
"ย..อย่าสิ มันจะแดง "
เสียงใสประท้วงขึ้นมาด้วยความขัดใจเมื่อเห็นว่าพี่ชายเอาแต่กดจูบตรงที่เดิมซ้ำๆเป็นเวลานานเกินไป
แต่ก็ดูเหมือนว่าซองกยูนั้นจะไม่ได้ฟังสิ่งที่อูฮยอนกำลังพูดอยู่เลย
ซองกยูเองเห็นท่าทีโววายของคนตัวเล็กแล้วก็ได้แต่นึกขำ เขาเองก็อยากจะบอกกับอูฮยอนด้วยเหมือนกันว่าหนูไม่ต้องมาดุพี่หรอก เพราะมันไม่ทันแล้ว แต่ซองกยูก็จะเงีบยมันเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน
ร่างหนาเลิกเสื้อของอูอยอนขึ้นมาไว้เหนืออกเผยร่างบางที่ไร้ซึ่งสิ่งปกปิดใดๆสู่สายตาของอีกคนในทันที ซองกยูเอื้อมใบหน้าขึ้นมาจูบปิดปากของอูฮยอนเอาไว้อีกครั้งเหมือนการบอกเป็นในๆว่าห้ามอูฮยอนคัดค้านเขาใดๆก็ตามแต่ ก่อนที่จะก้มลงไปกดจูบลงที่ยอดอกสีหวานของอีกฝ่าย
เขาใช้ลิ้นสะกิดเลียมันไปมามือหนาเลื้อนลงไปปลดกระดุมกางเกงของคนตัวเล็กออกแล้วค่อยๆทำการลูดซิบมันลงช้าๆอย่างคนใจเย็น
"อืมม.. "
อูฮยอนร้องค้างออกมาด้วยความวาบหวามพายในกายและหัวใจดวงน้อยด้วยสัมผัสของซองกยูที่มอบให้
ร่างบางห่อตัวรับริมฝีปากของอีกคนที่กำลังกดจูบลงมายังตัวของเขายอดอกสีหวานที่ตอนนี้ตั้งชันขึ้นจากผลของลิ้นเจ้าเล่ห์ที่กำลังโลมเล้าตรงส่วนนั้นจนทำให้อูฮยอนรู้สึกสยิวไปทั้งตัวและเริ่มหายใจลำบากขึ้น
ซองกยูทำการถอดกางเกงของร่างบางแล้วจัดการโยนมันทิ้งไปอย่างไม่ใยดี เผยให้เห็นร่างบางที่กำลังนอนเปลือยเปล่าท่อนล่างไร้สิ่งปกปิดใดๆ
หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นร่างสวยงามของคนรัก ความร้อนเริ่มเพิ่มขึ้นมาในกายในขณะที่จ้องมองไปยังอีกคนและอูฮยอนที่กำลังนอนหอบหายใจอยู่ใต้ร่างของเขา
"พี่จ๋า..."
เด็กน้อยเริ่มขี้แยและเอียงอายขึ้นมาเมื่อโดนสายตาของคนเป็นเป็นพี่จ้องมองกันนานเกินไปยังกับว่าจะจับเขากินอย่างงั้นแหละ
แววตาของซองกยูที่ส่องประอยู่ตรงหน้าอูฮยอนตอนนี้มันชัดเจนจนร่างบางรับรู้เลยว่าอีกคนนั้นกำลังต้องการเขามากมายเพียงใด
ซองกยูจับสองแขนของอูฮยอนมาเกี่ยวรัดที่ต้นคอของเขาเอาไว้ แล้วค่อยๆดึกอีกคนขึ้นมานั่งบนตักในจังหวะเดียวกัน ร่างบางของคนตัวเล็กกว่าก็ใช้ขาทั้งสองข้างของตัวเองเกี่ยวรัดเข้าที่เอวหนาของคนเป็นพี่อย่างรู้งานในทันที
ในช่วงเวลานี้ถึงแม้ว่าอูฮยอนเองจะยังคงรู้สึกเขินอายอยู่บ้างแต่อูฮยอนก็จะไม่แสดงมันออกมา เพราะอูฮยอนอยากให้ซองกยูมีความสุข
ในคืนที่แสนเหน็บหนาวนี้ต่อให้ร่างทั้งร่างของอูฮยอนนั้นถูกแช่แข็งจนตายเขาก็จะโอบกอดซองกยูเอาไว้
ดวงตาเรียวคมของซองกยูจ้องมองมายังอีกคนสบตากันนิ่งอย่างสื่อความหมายร่างบางประคองใบหน้าของคนตัวโตเอาไว้ด้วยความรู้สึกโหยหาก่อนที่ทั้งคู่จะค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าหากันประทับริมฝีปากส่งมอบรสจูบอันร้อนแรงที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความหอมหวานให้กันและกัน
กางเกงตัวใหญ่ถูกถอดทิ้งไปเหลือไว้เพียงกายที่ไร้สิ่งปิดกั้นร่างหนาจัดการชักรูดแกรนกายของตัวเองนั้นสองสามทีแล้วจ่อมันเอาไว้ตรงช่องทางรักของคนตัวเล็กกว่าก่อนที่อีกคนนั้นจะค่อยๆนั่งทับมันลงมาอย่างช้าๆ
กายหนาค่อยๆถูกร่างบางกลืนกินเข้าไปข้างในร่างกายของอูฮยอนโอบรัดกายหนาของซองกยูแน่นจนคนเป็นพี่นั้นต้องร้องครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างอดกั้นไม่ได้
"ซี๊ดด.. อ๊าา.. "
อูฮยอนเบียดหน้าท้องแบนราบแนบชิดกับร่างหนาของอีกคนพรางให้สองมือจับไหล่กว้างของคนตัวโตเอาไว้เพื่อเป็นที่ยึดเกาะก่อนที่ร่างบางนั้นจะค่อยๆทำการขยับสะโพกไปมาช้าๆบนหน้าตักของคนเป็นพี่อย่างยั่วยวน
"อ๊ะ..อ้า.. "
เสียงใสครางสั่นออกมาความความเสียวไปทั้งกายเมื่อเอวบางทำการขยับสะโพกไปมาเป็นจังหวะที่เร็วขึ้นเรื่ยๆตามแรงอารมณ์
ความรู้สึกอบอวนและร้อนรุ่มข้างในกายที่กำลังโอบรัดแกรนหนาของซองกยูเอาไว้ อูฮยอนรู้สึกวาบหวามไปทั่วทั้งกายจนร่างบางนั้นหยุดขยับเอวไปมาไม่ได้
"อืมม.. "
ซองกยูครางต่ำออกมาด้วยความรู้สึกที่เสียซ่านไม่ต่างกัน มือทั้งสองของเขาจับเอวบางเอาไว้แน่น พรางซุกหน้าเข้าหากดจูบที่ซองคอขาวทั้งสองข้างสลับกันไปมา
ความเสียดสีพายในกายที่ตอดรัดสร้างความเสียวซ่านแล่นผ่านไปทั่วทั้งตัวก่อนที่ซองกยูจะทนไม่ไหวกับสิ่งที่อูฮยอนมอบให้ ร่างหนากดให้อีกคนนอนหงายลงไปกับเบาะของโซฟาตัวหนาตามด้วยร่างหนาที่คร่อมต่ำตามลงมา
อูฮยอนกอดโอบกอดรอบคอคนเป็นพี่เอาไว้แน่น ซองกยูกดจูบลงที่ริมฝีปากอิ่มของอีกคนซ้ำๆสอดลิ้นควานหาความหวานพายในโพรงปากจนคนตัวเล็กนั้นแทบขาดอากาศหายใจ
"อ๊าาาา..อ้าา "
ร้องครางออกมาอย่างสุดจะอดกั้นเมื่อคนเป็นพี่ทำการขยับสะโพกรัวเร็วเข้ามายังช่องทางที่ยังเชื่อมติดกันอยู่
"แมรี่คริสต์มาสครับที่รัก"
ซองกยูก้มลงไปกระซิบเบาๆที่ข้างหูของอูฮยอนแล้วจูบซับลงไปที่ข้างแก้มเนียนใส
อูฮยอนพยักหน้ารับคำของอีกคนพร้อมกับรอยยิ้มแสนน่ารักกับความสุขแสนจะพิเศษที่เขานั้นได้รับในวันนี้
ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ซองกยูก็ยังคงเป็นซองกยู คนที่คิดถึงแต่อูฮยอนก่อนเสมอ ถึงแม้ในบางครั้งจะมีละเลยใจกันไปบ้างแค่สิ่งที่เด่นชัดไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนั้นก็คือ ซองกยูนั้นรักอูฮยอน และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้อูฮยอนนั้นมีความสุขและยิ้มกลับมาให้กัน
มันก็แค่นั้น เพราะความสุขของซองกยูคือการที่ได้เห็นลอยยิ้มของอูฮยอน
บทเพลงแห่งความรักยังคงบรรเลงต่อไปท่ามกลางสายลมหนาวที่พัดเกร็ดหิมะอ่อนนุ่มลอยลงมาตามท้องอากาศ แสงไฟสีทองยังคงสะท้อนกับแสงของดาวดวงเด่นบนปลายยอดต้นคริสต์มาสเป็นประกาย
ก่อนที่ซองกยูจะจับมือนั้นเอาไว้แล้วนำพาอูฮยอนลอยขึ้นไปแตะตรงขอบฝั่งฟ้า ความสุขมากล้นที่ทั้งสองมอบให้ซึ่งกันและกันในค่ำคืนนี้ล้นปี่ไปทั้งกายใจ
อูฮยอนนอนแผ่ใต้ร่างของซองกยูหลับตาพริมหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน
ลอยยิ้มบางๆผุดขึ้นมาเปื้อนหน้าอย่างรู้สึกขอบคุณอีกฝ่ายที่อยู่ตรงหน้าที่เฝ้าทำอะไรตั้งหลายอย่างให้กันตลอดมา
ทั้งความเหงาความน้อยใจที่อูฮยอนเคยมีต่อซองกยูที่ผ่านมานั้นมันได้ละลายหายไปจนหมดแล้ว หายไปทั้งแต่วินาทีแรกทีได้เห็นสิ่งที่อีกคนนั้นเตรียมไว้เพื่อกัน
อูฮยอนรู้ตัวเองดีว่าเขานั้นเรียกร้องพี่ชายให้มาเอาอกเอาใจกันมากเกินไป ทั้งๆทีรู้ดีอยู่แล้วว่าอีกคนนั้นต้องทำงานและต้องแบกรับอะไรๆไว้ตั้งหลายอย่าง แต่มันก็เพราะว่าอูฮยอนนั้นรักซองกยูมาก มันก็เลยทำแบบนั้นลงไป
แต่ต่อจากนี้อูอยอนจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วอูฮยอนจะทำตัวใหม่เพื่อเป็นคนที่คู่ควรกับความรักของซองกยู
ซองกยูจ้องมองดวงหน้าใสนิ่งก่อนที่เขาจะก้มลงไปจูบซับที่หน้าผากมลของร่างบางด้วยความรักที่มีต่ออีกคนอย่างสุดหัวใจ จากนั้นก็ก้มต่ำลงไปกดปลายจมูกลงยังแก้มนิ่มทั้งสองข้าง แล้วเลื่อนไปประกบริมฝีปากบางอวมอิ่มนั้นเอาไว้ส่งผ่านความรักทั้งหมดที่เขามีให้อีกคนได้รับรู้
ก่อนที่จะจับมือของอีกคนขึ้นมาแล้วสวมส้อยข้อมือเส้นบางสีเงินที่มีจี้รูปดาวทรงเรียบติดอยู่ ซองกยูค่อยๆบรรจงส่วมมันให้กับอูฮยอน อูฮยอนยกมืออีกข้างขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้ด้วยความรูสึดีใจ ตกใจ และตื่นเต้น หลายๆอย่างมารวมกันอย่างบอกไม่ถูก นี่คงจะเป็นอีกหนึ่งของขวัญวันคริสมาสที่อีกคนเตรียมไว้ให้กันสินะ นึกไม่ถึงเลย
"พี่ขอโทษนะครับ ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีเวลาให้ไอ้อ้วนเลย ขอโทษที่ทิ้งให่ไอ้อ้วนเหงาขอบคุณที่รอกันนะครับที่รัก
จบคำพูดของซองกยู อูฮยอนได้แต่ยิ้มพยักหน้ารับคำของคนเป็นพี่ด้วยหัวใจที่เต้นรัวและสุขล้นจนไม่สามารถบรรยายออกมเป็นคำพูดได้ ก่อนที่จะดึกใบหน้าของพี่ชายเข้ามากดจูบเอาไว้แทนคำว่ารักที่มีให้ร้อยพันคำ
"ต่อจากนี้ไปเค้าจะไม่ดื้อกับพี่อีแล้วสัญญาใจเลยขอบคุณที่ทำทุกอย่างให้กันมาโดยตลอด แมรี่คริสต์มาสครับที่รักของอูฮยอน "
"แมรี่คริสต์มาสครับที่รักของซองกยู "
ทั้งคู่โอบกอดกันเอาไว้ท่ามกลางค่ำคืนที่แสนเหน็หนาว ที่ปลุกคลุมไปด้วยกลิ้นอายของความสุขในวันคริสต์มาส
ถ้าหากว่าสำหรับซองกยูนั้นความสุขคือการได้เห็นลอยยิ้มของอูฮยอน ความสุขสำหรับอูฮยอนก็คือการได้อยู่เคียงข้างซองกยูเช่นกัน แมรี่คริสต์มาส
-END-
สวัสดีค่ะทุกคนนี่คือของขวัญวันคริสมาสของเราและสำหรับการคัมแบคในรอบ1ปี4เดือนของINFINITEด้วย
ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันคริสต์มาสและในวันปีใหม่ที่จะถึงนี้ด้วยนะคะ
//สามมารถพูดคุยกันได้ที่TW @/aodaed_04