วันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2560

[OS] Chirstmas is coming

:Chirstmas is coming
:Songgyu X Woohun


                  





          สายลมหนาวพัดปุยหิมะบางที่กำลังโปรยปรายปกคลุมตึกใหญ่ต้นไม้ตามข้างทางผู้คนต่างสวมใส่เสือผ้าหนาห่อหุ่มร่างกายจากอากาศที่แสนหนาวเหน็บ เข้าสู่วินเทอร์ฤดูกาลข้างกองไฟแสนอบอุ่นของเดือนธันวาคมคู่รักที่เดินจูงมือกันกับคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึงหลังเที่ยงคืนนี้ 

ภาพทุกอย่างยังคงสะท้อนเข้ามาในดวงตาคู่สวยของชายหนุ่มวัยเยาว์กับกลิ่นหอมอวนของคาเฟ่ลาเต้ร้อนลอยขึ้นมาในยามที่เจ้าตัวจ่อแก้วขึ้นที่ปลายคาง ในคาเฟ่เล็กๆริมข้างทางที่ผู้คนบางตา 
ความเงียบสงบในมุมเล็กๆภายในร้านชั่งแตกต่างจากข้างในจิตใจของเขาที่กำลังยุ่งเหยิงในตอนนี้ สายตาที่ทอดมองยาวออกไปนอกหน้าต่างบานใสสลับกับอีกมุมที่อยู่ตรงหน้าเก้าอี๋ไม้อีกตัวที่ไร้คนนั่ง 'ความเหงา' คือคำตอบที่เขาค้นพบกับตัวเองเมื่อตอนที่ใครบางคนนั้นไม่ได้อยู่ข้างกายกัน 

กับความสัมพันธ์ที่หวานหยดแต่ยากจะเข้าใจ ในขณะที่เด็กมัธยมปลายปี3คนอื่นกำลังวุ่นวายกับการเอ็นทรานซ์เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับต่อไปแต่เขากับมานั่งคิดฟุ้งซ่านเรื่องรักๆไคร้ๆที่แสนจะไร้สาระและ 'ไร้ค่า'ที่สุด บางทีเขาอาจจะเสียเวลาให้กับความสัมพันธ์ฉาบฉวยนี้มากเกินไป....

..คลืนน~ 

เสียงโทรศัพท์เครื่องบางสั่นพร้อมปรากฎข้อความประโยคสั้นๆจากเบอร์ที่คุ่นตา


'มาหาหน่อยดิ จะรอหนูที่ห้องนะ' 


รอยยิ้มบางๆเย้ยขึ้นที่มุมปากความรู้สึกดีใจและหน่วงใจเกิดขึ้นมาในเวลาเดียวกัน หึ ไปหางั้นหรอ ทำไมเขาถึงต้องถ่อไปหาอีกคนเพียงเพราะข้อความง่ายๆสั้นๆที่ไร้ซึ้งความใส่ใจนี่ด้วยล่ะ 

ถ้าเกิดว่าคนๆนั้นคิดถึงกันจริงๆก็น่าจะมาหากันเองแล้วสิ
ทำไมต้องเป็นเขาตลอดด้วยที่ต้องเป็นฝ่ายเดินเข้าหาอีกคนก่อนเรื่อยมา 

ในช่วงเทศกาลสำคัญแบบนี้น่าจะเป็นอีกคนมากกว่าไหมที่เป็นฝ่ายมาหาหรือไม่ก็แค่ขับรถมารับกันเฉยๆก็ได้หนิ เขาเบื่อที่จะเป็นฝ่ายเข้าหาซองกยูก่อนแล้ว 


ร่างเล็กของอูฮยอนฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะไม้ด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน 
เขารู้สึกเหนื่อยล้าและหนาวหัวใจมากมายอย่างบอกไม่ถูก ในเวลานี้ถ้าหากว่ามีใครสักคนที่สามารถให้เขาซบกอดพึ่งพิงไออุ่นนั้นได้มันก็คงดีไม่น้อย 


ร่างบางหลับตาพริมพรางนึกถึงเรื่องราวหลายๆอย่างที่ผ่านเข้ามาในช่วงไม่กี่เดือนนี้ เด็กมัธยมปลายอย่างเขาที่พึ่งจะโดนคนที่แก่กว่ากันตั้งเกือบ5ปีตามเตาะเหมือนเงา จนสุดท้ายก็เป็นตัวอูฮยอนเองที่เผลอตัวเผลอใจไปกับอีตาลุงคนนั้นจนได้ ทุกๆอย่างมันไวเกินไปจนเขาเองรู้สึกไม่แน่ใจเลยว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้มันจะมีตอนต่อไปเป็นเช่นไร ขนาดตอนนี้มันพึ่งจะเริ่มต้นเองแท้ๆเขายังรู้สึกเหงาและเหนื่อยกับมัน คนๆนั้นที่เอาแต่ติดงานจนบ่อยครั่งไม่มีแม้แต่เวลามาสนใจดูดำดูดีกัน
ในช่วงที่หิมะกำลังโปรยปลายปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ซองกยูไม่รู้หรอกว่าอูฮยอนนั้นเหงาแค่ไหน อูฮอนต้องการมากกว่านี้ต้องการเวลาให้อีกคนเอาใจใส่กันบ้างหรือจะเป็นอะไรก็ได้ที่มากกว่าข้อความที่ว่า'คิดถึงนะ มาหาหน่อย' เหอะ มันน่าน้อยใจไหมล่ะ แล้วไอ้คิดถึงที่ว่านี่มันคิดถึงแบบไหนกัน ซองกยูน่ะคิดถึงเขาหรือว่าคิดถึงเซ็กซ์กันแน่....


...คลืนนน~

'รออยู่นะ '

เป็นอีกประโยคสั้นๆของคนเป็นพี่ที่ส่งเข้ามาหา ยังไงซะซองกยูก็จะจี้ให้อูฮยอนไปหาให้ได้จริงๆสินะ 


ตาสวยจ้องมองข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือแบนด์ผลไม้เครื่องหรูแล้วได้แต่ยิ้มเยาะให้ตัวเองเป็นครั้งที่สองก่อนที่จะลุกขึ้นเก็บข้าวของที่วางกระจายบนโต๊ะเข้ากระเป๋าเป้ใบเล็ก 

สุดท้ายแล้วเขาก็ใจอ่อนให้กับความขี้ตื๊อของอิตาลุงคนนั้น เป็นอีกครั้งและอีกครั้งที่ซองกยูร้องขอแล้วอูฮยอนก็ทำตามโดยที่ไม่แม้แต่เอ่ยปากขัดใดๆสักคำ
 ก็เออ..ไปก็ไปสิ ต่อให้ในใจตอนนี้อูฮยอนจะอยากหายตัวหนีกลับไปนอนซุกผ้าห่มอุ่นๆที่บ้านแทนการไปเปลืองตัวให้อีกคนก็เหอะ






แต่อูฮยอนก็เลือกที่จะไปหาซองกยู






ค่ำคืนแห่งความสุขของใครหลายๆคนใกล้จะมาถึง กับแสงไฟสลัวหลากสีสันที่ประดับตบแต่งตามข้างทางดูสวยงามเข้ากับบรรยากาศคริสต์มาส ในยามที่สายลมหนาวกระทบร่างบางที่ยืนอยู่หน้าตึกสูง แก้มใสเย็นเฉียบยามที่สายลมพัดผ่าน 

อูฮยอนกระชับเสื้อโค้ชตัวหนาสีชมพูน่ารักด้วยอาการหนาวสั่นก่อนที่จะก้าวเดินเข้าไปยังตัวอาคารเบื่องหน้าจุดมุ่งหมายต่อไปคือชั้นสิบห้าและห้องของซองกยู 

ขาเรียวหยุดยืงหน้าประตูบานใหญ่มือน้อยล่วงเข้าไปในเป้ใบเล็กยิบคีย์การ์ดสีดำทรงเรียบที่คนๆนั้นเคยทิ้งไว้ให้ ก่อนที่จะใช้มันเปิดประตูแล้วดันมันเข้าไป...


ข้างในห้องมืดสนิดและเงียบอย่างกับห้องร้างกลางหุบเขา ทำไมไม่เปิดไฟล่ะ อย่าบอกนะว่าดึกป่านนี้แล้วซองกยูยังไม่เลิกงานอีก? หรือว่าออกไปธุระที่ไหนสักที่แล้วยังไม่กลับเข้ามา เหอะ แค่นึกถึงสาเหตุอูฮยอนก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เอาซะเลย คงไม่ใช่ว่าจะให้เขามารอที่ห้องหรอกนะ คิม ซองกยู

ร่างบางของอูฮยอนเดินเข้าไปยังด้านในส่วนที่เป็นห้องรับแขกด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวพรางนึกเคลืองใจให้กับอีกคนที่นัดกันเอาไว้


แต่แล้วร่างบางก็ต้องหยุดชะงักในทันทีเมื่อเห็นภาพที่สะท้อนอยู่ตรงหน้า ท่ามกลางความมืดมีเค้กสตอเบอรี่ก้อนโตจุดเทียนส่องแสงสว่างวางอยู่ตรงกลางโต๊ะข้างๆมีกระดาษโน๊ตเลิกๆสีฟ้าอ่อนเขียนเอาไว้

ก่อนที่อูฮยอนจะเอื้อมมือลงไปยิบกระดาษแผ่นเล็กนั้นขึ้นมาอ่าน 'You are mine' คือข้อความที่ปรากฏอยู่ในโน๊ตแผ่นเล็กที่ถูกเขียนด้วยลายปากกากากๆที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นลายมือของใคร
อูฮยอนจ้องมองข้อความนั้นแล้วใบหน้าก็เกิดลอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นมาอย่างหุบไม่ได้  อีตาลุงบ้านี่ก็มีมุมโรแมนติกกับชาวบ้านเขาด้วยเหอะ อูฮยอนไม่ค่อยชินเลย


ในขณะเดียวกันแสงไฟสีทองเล็กๆหลายร้อยดวงก็ส่องสว่างขึ้นมาอย่างกระทันหันร่างน้อยของอูอยอนสะดุ้งด้วยความตกใจ
แต่แล้วเมื่อหันมองไปรอบๆตัวอูฮยอนเองก็พบว่าบริเวณโดยรอบทั้งหมดนั้นถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟสีสวยเป็นร้อยๆดวงส่งแสงระยิบระยับท่ามกลางความมืดดั่งแสงของหิงห้อยที่ลอยไปมาในท้องฟ้ามืดไม่มีผิด


ตรงมุมห้องใกล้ๆมีต้นสนต้นนึงขนาดที่ใหญกว่าตัวเขาเล็กน้อยถูกตั้งเอาไว้ รอบต้นก็ถูกประดับเต็มไปด้วยแสงไฟสีทองด้วยเช่นเดียวกันโดยรอบๆต้นมีลูกบอลสีแดงแล้วก็ระฆังเล็กๆติดอยู่เต็มไปจนถึงตรงยอดสูงสุดของต้นที่มีดวงดาวส่องแสงประกายอยู่ตรงนั้น


ทุกอย่างน่าประทับใจที่สุด อย่าบอกนะว่าอีกคนเป็นคนทำมันให้กับเขา.....



ในขณะที่กำลังยืนนิ่งเก็บเกี่ยวความสวยงามนั้นอยู่อูฮยอนก็ถู
กมือหนาของใครบางคนดึงจากทางด้านหลังเข้าไปโอบกอดเอาไว้พร้อมกับเอาในหน้าเข้ามาซุกไซ้ที่ซอกคอขาวของเขาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว


"อุ๊ย!!" 


"ชอบหรือเปล่าหื้ม.." คือเสียงที่ใครอีกคนกระชิบเบาๆที่ขัางหูของเขาก่อนที่จะกดจูบลงมาบนแก้มเนียน

อูฮยอนมีท่าทีตกใจเล็กน้อยร่างบางหันหน้าไปเผชิญกับคนที่อยู่ด้านหลัง โดยไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่าคนๆนั้นคือใครเพราะอูอยอนนั้นคุ้นชินกับอ้อมกอดของซองกยูดี

"ชอบมากเลยล่ะ" อูฮยอนเอื้อมแขนเข้ามากอดตอบซองกยูในทันทีร่างบางซุกใบหน้าเข้าหาอกแกร่งซึมซับอ้อมกอดนั้นเอาไว้ก่อนที่จะใช้ฝ่ามือเล็กตุบตีมันเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้



"ตอนเค้าเดินเข้ามานึกว่าพี่ไม่อยู่ซะอีก ไม่คิดเลยว่าจะเซอร์ไพร์สกันแบบนี้" 



"แล้วทำไมถึงมาช้าจังล่ะ พี่รอหนูตั้งนาน"


"รอแค่นี้ไม่ได้หรอ"

"ได้สิ พี่น่ะรอไอ้อ้วนได้ทั้งคืนเลยนะ " พูดจบก็ก้มลงมาฟัดแก้มยุ้ยๆของร่างเล็กในอ้อมกอดทันที

"เด่วเหอะ ใครอ้วนห๊ะ!" อูฮยอนหันหน้าหนีไปอีกทางไม่ยอมให้คนเป็นพี่ได้หอมเขาได้ดี พรางส่งตาเขียวไปให้อีกคนที่พึ่งจะหาว่าเขาอ้วนไปเมื่อกี้ 



ซองกยูเห็นหน้างอๆของอูฮยอนแล้วก็ได้แต่กั้นขำเอาไว้ข้างใน แล้วจึงลากคนตัวเล็กให้ลงไปนั่งที่โซฟาตัวใหญ่พร้อมกัน



"อธิษฐานแล้วเป่าเทียนสิ" ซองกยูชี้นิ้วไปที่เค้กสตอเบอรี่ก้อนโตแล้วส่งยิ้มน้อยๆไปให้อูฮยอน


อูฮยอนจ้องมองเค้กก้อนใหญ่สหลับไปมากับใบหน้าของซองกยูอย่างไม่เชื่อตาด้วยความแปลกใจ

ตลอดระยะเวลาที่คบเป็นแฟนกันมาไม่เคยมีเลยสักครั้งที่ซองกยูจะแสดงหรือกระทำอะไรที่บงบอกว่าเจ้าตัวนั้นเป็นคนชอบความโรแมนติกเลย กลับกันสิ่งที่ซองกยูทำให้ในวันนี้มันทำให้อูฮยอนรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก 


บ่อยครั้งที่คนเป็นพี่ชอบละเลยและไม่ค่อยมีเวลาจะสนใจกันแปลกที่เรื่องน้อยใจพวกนั้นมันกลับละลายหายไปอย่างกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
และในคืนนี้ต่อให้ไม่มีแสงไฟสีทองร้อยๆดวงไม่มีต้นคริสต์มาสต้นใหญ่


เป็นแค่เค้กสตอเบอรี่ก้อนเดียวอูฮยอนก็จะรู้สึกว่าตัวเองมีค่ามากมายกับซองกยูแล้ว



"อธิษฐานว่าไงดี ขอให้พี่ซองกยูรักอูฮยอนมากๆดีไหม" อูฮยอนยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาประสานกันเอาไว้ที่หน้าอกส่งยิ้มน่ารักให้กับอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆกัน


"เค้กมันไม่รู้หรอกว่าพี่รักอูฮยอนขนาดไหน"




"แล้วพี่รักเค้าแค่ไหนกันล่ะ"




"ก็.. เท่าฟ้ามั้ง"



พูดแค่นั้นก็เอนหลังลงไปพิงกับโซฟาท่าทางสบายใจ อูฮยอนเห็นแบบนั้นแล้วได้แต่บึ่นปากใส่ก่อนที่จะหลับตาลงแล้วอธิษฐานในใจเงียบๆ

ซองกยูที่เอาแต่จ้องมองภาพของอูอยอนที่กำลังตั้งใจขอพรบางอย่างด้วยท่าทางจริงจังจนเขาเผอลยิ้มตามไปด้วย

แสงเทียนสีส้มจากเทียนหลายเล่มดับลงทิ้งไว้เพียงควันบางที่ลอยไปตามอากาศ 



อูฮยอนดูตื่นเต้นมากกับการควานหามีดกับจานเค้กที่วางอยู่ในถุงใต้โต้ะกระจกใส

"ให้เปิดไฟให้ไหม" ทักออกไปเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยของเขากำลังวุ่นวายเกินไปในการหาของในถุง

"ไม่เอา สลัวๆนี่แหละได้บรรยากาศดีละ เดี๋ยวต้นคริสต์มาสจะไม่เด่นเอา นี่ไงได้แล้ว" พูดจบก็ชูของในมืออวดคนเป็นพี่ในทันที เห็นไหมล่ะอูฮยอนหามีดตัดเค้กกับจานลองเจอโดยไม่ต้องเปิดไฟด้วยล่ะ



อูฮยอนจัดการตัดเค้กออกมาด้วยกันทั้งหมดสองชิ้นแต่ชิ้นของซองกยูจะมีขนาดที่เล็กมากกว่าของอูฮยอนเพราะว่าอูฮยอนนั้นรู้ดีว่าซองกยูนั้นไม่ค่อยชอบกินขนมหวานเท่าไหร่นัก ต่างจากอูฮยอนที่ชอบมันเอามากๆจนในบางครั้งที่อูฮยอนกินมันเยอะเกินไปแลัวก็จะโดนซองกยูล้อว่าเป็นเจ้าเด็กอ้วนอยู่บ่อยครัั้ั้ง






"อร่อยจัง  งืมม..ทำไมพี่ถึงปล่อยให้เค้านั้งกินคนเดียวละ ทำไมไม่กินด้วยกัน "




กว่าคนตัวเล็กจะเอะใจหันกลับมามองคนข้างหลังอีกทีก็เล่นเอาเกือบสำลักออกมาเลยที่เดียว
ก็ซองกยูน่ะเอาแต่นั่งมองเค้ากินเฉยๆแล้วก็เอาแต่ยิ้มให้กันเหมือนคนบ้าเลย จ้องกันแบบนั้นมันก็รู้สึกเขินขึ้นมาทำตัวไม่ถูกสิ



"หนูก็รู้.." พูดทิ้งไว้แล้วก็ย้ายตัวเองเข้ามานั่งซ้อนหลังอูอยอนแทนก่อนที่จะสอดฝ่ามือหนาเข้าไปโอบกอดรอบเอวบางเอาไว้อย่างคนเอาแต่ใจ

"ว่าพี่ไม่อยากกินเค้ก... "




อูฮยอนได้ฟังแบบนั้นแล้วได้แต่เบะปากออกมาด้วยความมั่นใส้ ไม่อยากกินเค้กแล้วอยากกินอะไรหรอห๊ะคุณซองกยู ทำไมอูฮยอนถึงจะไม่รู้ล่ะว่าซองกยูนั้นต้องการอะไรกัน

ต่อให้วันนี้ในห้องนี้ไม่ได้ตบแต่งด้วยอะไรเลยสักอย่าง ยังไงซะอิตาลุงนี่ก็จะหาเรื่องให้เขาต้องเปลืองตัวอยู่ดีจนได้แหละ คนอย่างซองกยูน่ะแค่อ้าปากอูฮยอนก็เห็นไปถึงใส้ติ่งแล้ว แต่ยังไงก็เอาเหอะ ยังไงซะวันนี้ซองกยูก็อุส่าห์เตรียมเซอร์ไพร์สให้กันแล้วหนิ
งั้นอูฮยอนก็จะให้รางวัลเพื่อเป็นการตอบแทนซองกยูด้วยก็แล้วกัน


"แล้วพี่อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมล่ะ วันนี้หนูจะยอมทำให้พี่ทุกอย่างเลยนะ"


"ไม่ต้องก็ได้ พี่ต้องการแค่หนูก็พอ"


พูดจบซองกยูก็ก้มลงไปกดจูบที่ข้างแก้มเนียนของคนตัวเล็กกว่าในทันที อูฮยอนเองก็เอียงแก้มให้คนเป็นพี่ได้หอมอย่างว่าง่าย พรางกั้นขำอีกคนที่เอาแต่แกล้งหอมกันไม่หยุดพรางกอดรัดกันแน่นไม่ยอมปล่อยกันสักที


"รู้อยู่หรอก ไม่ต้องมาทำเป็นเจ้าเล่ห์"


"หรอ" 


"อื้ม"



สิ้นบทสนทนาความเงียบเริ่มเข้าปกคลุม ซองกยูที่เอาแต่กดจูบลงมาที่แก้มใสเริ่มใช้สันจมูกโด่งไล่สูดดมกลิ้นกายแสนหนาวตามซอกคอขาวของตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด 



ฝ่ามือหนาเริ่มซุกซนมากขึ้นคนตัวโตสอดมือเข้าไปข้างใต้เสื้อยืดตัวบางแล้วลูบไร้ผิวเนียนใต้เสื้อนั้นอย่างหลงไหล


อูฮยอนได้แต่นั่งเอนหลังซบพิงไปกับอกของของคนเป็นพี่หลับตาพริมเอียงกายให้พี่ชายได้เชยชมร่างกายของเขาอย่างถนัดด้วยท่าทางเคอะเขินแต่เคยชิน

อูฮยอนไม่แน่ใจว่าโค้ทสีชมพูตัวใหญ่ของเขาถูกอีกคนจัดการถอดทิ้งไปตั้งแต่ตอนไหน ซึ่งรู้ตัวอีกทีคือตอนที่ซองกยูนั้นกำลังจะจับร่างของเขาเอนลงไปนอนราบกับเบาะของโซฟาตัวใหญ่แล้วตามมาด้วยร่างหนาของใครอีกคนที่กำลังค่อมขึ้นมาหา



 "พี่รักอูฮยอนนะครับ " 

คือคำพูดที่ซองกยูกระซิบบอกกันที่ข้างหู หัวใจของอูฮยอนกระตุกเต้นแรงขึ้นมาในทันทีที่ได้ยินคำว่ารักจากปากของซองกยูสายตาหวานจ้องมองไปยังดวงหน้าคมของคนเป็นพี่ทั้งคู่สบตากันนิ่งไม่มีคำพูดแสนหวานใดๆตามมา


มีเพียงแค่เสียงของหัวใจของคนทั้งสองที่เต้นไปในจังหวะเดียวกัน อูฮยอนรับรู้และสัมผัสมันได้ว่าซองกยูนั้นรักเขาจริงจากใจ ฝ่ามือน้อยๆเอื้อมขึ้นไปลูบคล่ำใบหน้าหล่อของร่างหนาเบาๆเพื่อย้ำเตือนว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความฝันที่เขาคิดไปเอง


ก่อนที่จะส่งลอยยิ้มที่แสนน่ารักและเติมเปลี่ยมไปด้วยความสุขไปให้กับซองกยู





"อูฮยอนก็รักพี่ซองกยูมากเหมือนกันครับ"






สิ้นประโยคบอกรักของร่างบางซองกยูก็ค่อยๆโน้มใบหน้าลงมาประทับริมฝีปากน่ารักของอูฮยอนในทันที กีบปากนุ่มของคนตัวเล็กจูบตอบเขากลับมาก่อนที่คนเป็นพี่จะสอดลิ้นเข้าไปควานหาความหอมหวานพายในช่องปาก

ลิ้นเล็กดุดันกลับคืนมาซองกยูดูดมันเอาไว้ในจังหวะเดียวกันทั้งคู่ผัดกันแลกลิ้นสลับกันไปมาด้วยความเล่าร้อนของเปลวไฟแห่งความรัก




และคนตัวเล็กของซองกยูเองก็ดูเหมือนว่าจะจูบชำนาญมากขึ้นด้วยเหมือนกันจากแต่ก่อนที่เขาทั้งสองคนพึ่งเริ่มคบกันแรกๆซองกยูเองยังต้องเป็นคนคอยสอนอูฮยอนทั้งหมดเลยด้วยซ้ำว่าอะไรควรจะทำแบบไหน


ในตอนนั้นอูฮยอนเองก็ดูจะเป็นเด็กขี้อายและใหม่มากกับเรื่อบพันนี้
จนในบางครั้งเขาเองยังแอบรู้สึกผิดเลยล่ะ ถ้าเกิดว่าในตอนนั้นมีผีสักตนที่กำลังแอบมองพวกเขาระหว่างสอนกันอยู่ผีตนนั้นก็คงจะคิดหาว่าเขานั้นจับลูกชาวบ้านมารังแกอยู่แน่เลย 



ซองกยูผลัดออกจากปากหวานแล้วเลื่อนลงมาจูบใต้คางไล่เลียลงมาตามคำคอขาว เขาใช้ฟันขบจูบไปมาซ้ำๆตามซอกคอทั้งสองข้างจนคนตัวเล็กเกิดเสียงร้องครางพายในลำคอด้วยความเคลิบเคลิ้ม

"ย..อย่าสิ มันจะแดง "



เสียงใสประท้วงขึ้นมาด้วยความขัดใจเมื่อเห็นว่าพี่ชายเอาแต่กดจูบตรงที่เดิมซ้ำๆเป็นเวลานานเกินไป
แต่ก็ดูเหมือนว่าซองกยูนั้นจะไม่ได้ฟังสิ่งที่อูฮยอนกำลังพูดอยู่เลย 

ซองกยูเองเห็นท่าทีโววายของคนตัวเล็กแล้วก็ได้แต่นึกขำ เขาเองก็อยากจะบอกกับอูฮยอนด้วยเหมือนกันว่าหนูไม่ต้องมาดุพี่หรอก เพราะมันไม่ทันแล้ว แต่ซองกยูก็จะเงีบยมันเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน


ร่างหนาเลิกเสื้อของอูอยอนขึ้นมาไว้เหนืออกเผยร่างบางที่ไร้ซึ่งสิ่งปกปิดใดๆสู่สายตาของอีกคนในทันที ซองกยูเอื้อมใบหน้าขึ้นมาจูบปิดปากของอูฮยอนเอาไว้อีกครั้งเหมือนการบอกเป็นในๆว่าห้ามอูฮยอนคัดค้านเขาใดๆก็ตามแต่ ก่อนที่จะก้มลงไปกดจูบลงที่ยอดอกสีหวานของอีกฝ่าย 
เขาใช้ลิ้นสะกิดเลียมันไปมามือหนาเลื้อนลงไปปลดกระดุมกางเกงของคนตัวเล็กออกแล้วค่อยๆทำการลูดซิบมันลงช้าๆอย่างคนใจเย็น



"อืมม.. " 




อูฮยอนร้องค้างออกมาด้วยความวาบหวามพายในกายและหัวใจดวงน้อยด้วยสัมผัสของซองกยูที่มอบให้ 
ร่างบางห่อตัวรับริมฝีปากของอีกคนที่กำลังกดจูบลงมายังตัวของเขายอดอกสีหวานที่ตอนนี้ตั้งชันขึ้นจากผลของลิ้นเจ้าเล่ห์ที่กำลังโลมเล้าตรงส่วนนั้นจนทำให้อูฮยอนรู้สึกสยิวไปทั้งตัวและเริ่มหายใจลำบากขึ้น


ซองกยูทำการถอดกางเกงของร่างบางแล้วจัดการโยนมันทิ้งไปอย่างไม่ใยดี เผยให้เห็นร่างบางที่กำลังนอนเปลือยเปล่าท่อนล่างไร้สิ่งปกปิดใดๆ 


หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นร่างสวยงามของคนรัก ความร้อนเริ่มเพิ่มขึ้นมาในกายในขณะที่จ้องมองไปยังอีกคนและอูฮยอนที่กำลังนอนหอบหายใจอยู่ใต้ร่างของเขา


"พี่จ๋า..." 


เด็กน้อยเริ่มขี้แยและเอียงอายขึ้นมาเมื่อโดนสายตาของคนเป็นเป็นพี่จ้องมองกันนานเกินไปยังกับว่าจะจับเขากินอย่างงั้นแหละ 
แววตาของซองกยูที่ส่องประอยู่ตรงหน้าอูฮยอนตอนนี้มันชัดเจนจนร่างบางรับรู้เลยว่าอีกคนนั้นกำลังต้องการเขามากมายเพียงใด


ซองกยูจับสองแขนของอูฮยอนมาเกี่ยวรัดที่ต้นคอของเขาเอาไว้ แล้วค่อยๆดึกอีกคนขึ้นมานั่งบนตักในจังหวะเดียวกัน ร่างบางของคนตัวเล็กกว่าก็ใช้ขาทั้งสองข้างของตัวเองเกี่ยวรัดเข้าที่เอวหนาของคนเป็นพี่อย่างรู้งานในทันที



ในช่วงเวลานี้ถึงแม้ว่าอูฮยอนเองจะยังคงรู้สึกเขินอายอยู่บ้างแต่อูฮยอนก็จะไม่แสดงมันออกมา เพราะอูฮยอนอยากให้ซองกยูมีความสุข




ในคืนที่แสนเหน็บหนาวนี้ต่อให้ร่างทั้งร่างของอูฮยอนนั้นถูกแช่แข็งจนตายเขาก็จะโอบกอดซองกยูเอาไว้ 


ดวงตาเรียวคมของซองกยูจ้องมองมายังอีกคนสบตากันนิ่งอย่างสื่อความหมายร่างบางประคองใบหน้าของคนตัวโตเอาไว้ด้วยความรู้สึกโหยหาก่อนที่ทั้งคู่จะค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าหากันประทับริมฝีปากส่งมอบรสจูบอันร้อนแรงที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความหอมหวานให้กันและกัน


กางเกงตัวใหญ่ถูกถอดทิ้งไปเหลือไว้เพียงกายที่ไร้สิ่งปิดกั้นร่างหนาจัดการชักรูดแกรนกายของตัวเองนั้นสองสามทีแล้วจ่อมันเอาไว้ตรงช่องทางรักของคนตัวเล็กกว่าก่อนที่อีกคนนั้นจะค่อยๆนั่งทับมันลงมาอย่างช้าๆ 


กายหนาค่อยๆถูกร่างบางกลืนกินเข้าไปข้างในร่างกายของอูฮยอนโอบรัดกายหนาของซองกยูแน่นจนคนเป็นพี่นั้นต้องร้องครางอ
อกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างอดกั้นไม่ได้


"ซี๊ดด.. อ๊าา.. "



อูฮยอนเบียดหน้าท้องแบนราบแนบชิดกับร่างหนาของอีกคนพรางให้สองมือจับไหล่กว้างของคนตัวโตเอาไว้เพื่อเป็นที่ยึดเกาะก่อนที่ร่างบางนั้นจะค่อยๆทำการขยับสะโพกไปมาช้าๆบนหน้าตักของคนเป็นพี่อย่างยั่วยวน

"อ๊ะ..อ้า.. "


เสียงใสครางสั่นออกมาความความเสียวไปทั้งกายเมื่อเอวบางทำการขยับสะโพกไปมาเป็นจังหวะที่เร็วขึ้นเรื่ยๆตามแรงอารมณ์ 


ความรู้สึกอบอวนและร้อนรุ่มข้างในกายที่กำลังโอบรัดแกรนหนาของซองกยูเอาไว้ อูฮยอนรู้สึกวาบหวามไปทั่วทั้งกายจนร่างบางนั้นหยุดขยับเอวไปมาไม่ได้



"อืมม.. " 


ซองกยูครางต่ำออกมาด้วยความรู้สึกที่เสียซ่านไม่ต่างกัน มือทั้งสองของเขาจับเอวบางเอาไว้แน่น พรางซุกหน้าเข้าหากดจูบที่ซองคอขาวทั้งสองข้างสลับกันไปมา



ความเสียดสีพายในกายที่ตอดรัดสร้างความเสียวซ่านแล่นผ่านไปทั่วทั้งตัวก่อนที่ซองกยูจะทนไม่ไหวกับสิ่งที่อูฮยอนมอบให้ ร่างหนากดให้อีกคนนอนหงายลงไปกับเบาะของโซฟาตัวหนาตามด้วยร่างหนาที่คร่อมต่ำตามลงมา 
อูฮยอนกอดโอบกอดรอบคอคนเป็นพี่เอาไว้แน่น ซองกยูกดจูบลงที่ริมฝีปากอิ่มของอีกคนซ้ำๆสอดลิ้นควานหาความหวานพายในโพรงปากจนคนตัวเล็กนั้นแทบขาดอากาศหายใจ


"อ๊าาาา..อ้าา " 



ร้องครางออกมาอย่างสุดจะอดกั้นเมื่อคนเป็นพี่ทำการขยับสะโพกรัวเร็วเข้ามายังช่องทางที่ยังเชื่อมติดกันอยู่ 





"แมรี่คริสต์มาสครับที่รัก" 






ซองกยูก้มลงไปกระซิบเบาๆที่ข้างหูของอูฮยอนแล้วจูบซับลงไปที่ข้างแก้มเนียนใส

อูฮยอนพยักหน้ารับคำของอีกคนพร้อมกับรอยยิ้มแสนน่ารักกับความสุขแสนจะพิเศษที่เขานั้นได้รับในวันนี้ 


ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ซองกยูก็ยังคงเป็นซองกยู คนที่คิดถึงแต่อูฮยอนก่อนเสมอ ถึงแม้ในบางครั้งจะมีละเลยใจกันไปบ้างแค่สิ่งที่เด่นชัดไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนั้นก็คือ ซองกยูนั้นรักอูฮยอน และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้อูฮยอนนั้นมีความสุขและยิ้มกลับมาให้กัน



มันก็แค่นั้น เพราะความสุขของซองกยูคือการที่ได้เห็นลอยยิ้มของอูฮยอน



บทเพลงแห่งความรักยังคงบรรเลงต่อไปท่ามกลางสายลมหนาวที่พัดเกร็ดหิมะอ่อนนุ่มลอยลงมาตามท้องอากาศ แสงไฟสีทองยังคงสะท้อนกับแสงของดาวดวงเด่นบนปลายยอดต้นคริสต์มาสเป็นประกาย



ก่อนที่ซองกยูจะจับมือนั้นเอาไว้แล้วนำพาอูฮยอนลอยขึ้นไปแตะตรงขอบฝั่งฟ้า ความสุขมากล้นที่ทั้งสองมอบให้ซึ่งกันและกันในค่ำคืนนี้ล้นปี่ไปทั้งกายใจ



อูฮยอนนอนแผ่ใต้ร่างของซองกยูหลับตาพริมหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน 



ลอยยิ้มบางๆผุดขึ้นมาเปื้อนหน้าอย่างรู้สึกขอบคุณอีกฝ่ายที่อยู่ตรงหน้าที่เฝ้าทำอะไรตั้งหลายอย่างให้กันตลอดมา


ทั้งความเหงาความน้อยใจที่อูฮยอนเคยมีต่อซองกยูที่ผ่านมานั้นมันได้ละลายหายไปจนหมดแล้ว หายไปทั้งแต่วินาทีแรกทีได้เห็นสิ่งที่อีกคนนั้นเตรียมไว้เพื่อกัน

อูฮยอนรู้ตัวเองดีว่าเขานั้นเรียกร้องพี่ชายให้มาเอาอกเอาใจกันมากเกินไป ทั้งๆทีรู้ดีอยู่แล้วว่าอีกคนนั้นต้องทำงานและต้องแบกรับอะไรๆไว้ตั้งหลายอย่าง แต่มันก็เพราะว่าอูฮยอนนั้นรักซองกยูมาก มันก็เลยทำแบบนั้นลงไป



แต่ต่อจากนี้อูอยอนจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วอูฮยอนจะทำตัวใหม่เพื่อเป็นคนที่คู่ควรกับความรักของซองกยู 


ซองกยูจ้องมองดวงหน้าใสนิ่งก่อนที่เขาจะก้มลงไปจูบซับที่หน้าผากมลของร่างบางด้วยความรักที่มีต่ออีกคนอย่างสุดหัวใจ จากนั้นก็ก้มต่ำลงไปกดปลายจมูกลงยังแก้มนิ่มทั้งสองข้าง แล้วเลื่อนไปประกบริมฝีปากบางอวมอิ่มนั้นเอาไว้ส่งผ่านความรักทั้งหมดที่เขามีให้อีกคนได้รับรู้ 

ก่อนที่จะจับมือของอีกคนขึ้นมาแล้วสวมส้อยข้อมือเส้นบางสีเงินที่มีจี้รูปดาวทรงเรียบติดอยู่ ซองกยูค่อยๆบรรจงส่วมมันให้กับอูฮยอน อูฮยอนยกมืออีกข้างขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้ด้วยความรูสึดีใจ ตกใจ และตื่นเต้น หลายๆอย่างมารวมกันอย่างบอกไม่ถูก นี่คงจะเป็นอีกหนึ่งของขวัญวันคริสมาสที่อีกคนเตรียมไว้ให้กันสินะ นึกไม่ถึงเลย

"พี่ขอโทษนะครับ ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีเวลาให้ไอ้อ้วนเลย ขอโทษที่ทิ้งให่ไอ้อ้วนเหงาขอบคุณที่รอกันนะครับที่รัก 

จบคำพูดของซองกยู อูฮยอนได้แต่ยิ้มพยักหน้ารับคำของคนเป็นพี่ด้วยหัวใจที่เต้นรัวและสุขล้นจนไม่สามารถบรรยายออกมเป็นคำพูดได้ ก่อนที่จะดึกใบหน้าของพี่ชายเข้ามากดจูบเอาไว้แทนคำว่ารักที่มีให้ร้อยพันคำ




"ต่อจากนี้ไปเค้าจะไม่ดื้อกับพี่อีแล้วสัญญาใจเลยขอบคุณที่ทำทุกอย่างให้กันมาโดยตลอด แมรี่คริสต์มาสครับที่รักของอูฮยอน "

  "แมรี่คริสต์มาสครับที่รักของซองกยู " 


ทั้งคู่โอบกอดกันเอาไว้ท่ามกลางค่ำคืนที่แสนเหน็หนาว ที่ปลุกคลุมไปด้วยกลิ้นอายของความสุขในวันคริสต์มาส

ถ้าหากว่าสำหรับซองกยูนั้นความสุขคือการได้เห็นลอยยิ้มของอูฮยอน ความสุขสำหรับอูฮยอนก็คือการได้อยู่เคียงข้างซองกยูเช่นกัน แมรี่คริสต์มาส



                         -END-

                   
สวัสดีค่ะทุกคนนี่คือของขวัญวันคริสมาสของเราและสำหรับการคัมแบคในรอบ1ปี4เดือนของINFINITEด้วย
ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันคริสต์มาสและในวันปีใหม่ที่จะถึงนี้ด้วยนะคะ
//สามมารถพูดคุยกันได้ที่TW @/aodaed_04  

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559

[OS] free MakotaxHaruka [Yaoi18+]

:Freee
:MakotoXHaruka
      
       

.....สุดท้ายแล้วฉันต้องการอะไรกัน ฉันอยากทำอะไรกันแน่ ฉันนั้น..ทำไปเพื่ออะไร.....


คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวของร่างบางที่กำลังลอยวนอยู่ในสระน้ำสีครามใต้แสงจันทร์ของชุมนุมว่ายน้ำแห่งโรงเรียนมัธยมอิวาโทบิ
วันนี้ในการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำระดับเขต..ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นนัดล้างตาของเขากับรินเพื่อนที่เขาอยากจะว่ายน้ำด้วยที่สุดคนนึง ผลคือเขาแพ้ ทั้งที่ทีแรกไม่สนใจเรื่องแพ้ชนะอยู่แล้ว แต่ทำไมตอนนั้นทุกอย่างถึงกายเป็นสีดำไปหมด รินน่ะ วายน้ำไปเพื่ออยากเป็นนักกีฬาโอลิมปิก แต่... เขาล่ะ ว่ายน้ำไปเพื่ออะไร


"ไปที่ไหนกันน่า.." เสียงของนางิเสะตัดพ้อขึ้นเมื่อตามหาฮารุกะไม่เจอ

"อย่าบอกนะว่า...ฮ่อลล.. " เรย์ที่นั่งอยู่ข้างๆได้แต่เพ้อตามแล้วถอนหายใจออกมา

"อื้อฮือ.. เรย์จังอย่าทำหน้าแบบนั้นแล้วพูดอะไรไม่ดีออกมานะ"

"ห๊า..ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรเลยนะครับ ตะ..แต่ว่าเอ่ออ.. "

"ไม่เป็นไรหรอก "มาโกโตะพูด

"เอ๋~~" ทุกคนต่างส่งเสียงออกมาด้วยความประราดใจ

"ฮารุไม่ใช่คนอ่อนแอน่ะสิ  เดี๋ยวก็คงกลับมาเองละ" มาโกโตะยิ้มบางๆออกไปเพื่อให้พวกเพื่อนๆรู้สึกสบายใจขึ้นที่ตอนนี้พวกเขายังตามหาฮารุกะไม่เจอ

"ถ้าอย่างงั้น พวกเราก็กลับกันเถอะค่ะตอนนี้มันก็ดึงมากแล้วด้วย "โกจังพูดขึ้นก่อนจะลุกขึ้นยืนแลัวเดินออกไปจากบ้าน

"อื๊ม..งั้นเราก็กลับกันเถอะฮะเรย์จัง"นางิเสะพูดเสริมก่อนที่จะลุกขึ้นยืน

"หวังว่ารุ่นพี่ฮารุกะจะกลับมาในคืนนี้นะครับ.. คงจะไม่...."

"โถ่ววเว้ย!!... อะไรอีกห๊าเรย์จัง บอกแล้วไงว่าอย่าพูดอะไรแบบนั้นออกมา "นางิเสะกระโดดเอามือล็อกคอเรย์ก่อนที่จะลากออกมาจากบ้านของฮารุกะ "เรย์จังนี่จริงๆเลย ทำไมถึงชอบพูดจาแบบนั้นออกมาห๊ะ"

"ผมยังไม่ทันจะพูดอะไรเลยนะครับ นางิเสะก็"
เสียงของเรย์กับนางิเสะดังห่างออกไปจากบ้านของฮารุกะเรื่อยๆ ทิ้งไว้แต่ร่างหนาของมาโกโตะที่ไม่ยอมลุกออกไปไหน เขายังคงนั่งอยู่ตรงจุดเดิม
เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ฮารุไปอยู่ที่ไหนเขาไม่สบายใจเอาซะเลยที่เห็นฮารุจิตตกแบบนี้ ฮารุเอาแต่คิดถึงเรื่องของริน เขารับรู้ได้ว่าความสัมพันของฮารุกับรินนั้นเปลี่ยนไปมาก และครั่งนี้ฮารุว่ายน้ำแพ้รินแต่ดูท่าทีของฮารุแล้วก็แย่เอามากๆเลย ฮ่อลล..เขาก็แค่เป็นห่วงฮารุมากเกินไป



แกร็ก...คลืนนน..

เสียงประตูบานเลื่อนถูกเปิดออกปรากฎร่างหนาของบางคนที่นั่นหลับอยู่ไม่ห่างจากประตู
ฮารุกะได้แต่ยืนอึ่งอยู่ตรงนั้น นี่มาโกโตะมารอเขาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย เพราะเขาแท้ๆมาโกโตถึงต้องลำบากขนาดนี้

"มาโกโตะๆ ตื่นเถอะ " ฮารุกะก้มตัวลงไปเอื้อมมือสัมผัสที่ไหล่หนาเบาๆแล้วความรู้สึกร้อนว๊าบก็วิ่งพุ่งขึ้นมาในทันที อารุกะจ้องมองไปที่ใบหน้าที่กำลังหลับไหลของมาโกโตะไม่วางตา จากดาวตาที่ปิดสนิทคิ้วหนาลงมาตามสันจมูกโด่งริมฝีปากหนาได้รูปทุกสิ่งทุกอย่างมันชั่งลงตัว จะว่าไปแล้วมาโกโตะนี่ก็หล่ออยู่เหมือนกันนะเนี่ยรึว่าเขาพึ่งจะมาสังเกต

"นายกำลังจ้องฉันอยู่หรอ " อยู่ๆมาโกโตะก็ลืมตาขึ้นมาอย่างกะทันหัน

"ปะ..ป่าวซะหน่อย -///-" ฮารุกะผลักตัวออกแล้วรีบหันหลังให้มาโกโตทันที

"ไม่ใช่หรอกหรอ..   แล้วทำไมนายต้องหน้าแดงแบบนั้นด้วยล่ะ"

"ปะ..ป่าว ฉันก็แค่เหนื่อยที่วิ่งมาไกลอะนะ แฮร่ๆ" แก้ต่างออกไปด้วยท่าทีแปลกๆ ฮารุกะได้แต่ยิ้มแห้งๆเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่ได้รู้สึกแปลกๆกับมาโกโตะซะหน่อย

"แน่ใจนะ " มาโกโตะจ้องมองไปที่ฮารุกะด้วยสายตาแน่นิ่ง ฮารุกะที่เผลอแอบไปสบตาเข้าถึงกับตัวแข็งทื่อขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

"อื้อ.. อึก.."

"ฮารุ  นายหายไปไหนมารู้ไหมฉันเป็นห่วง "

"มะ.. มาโกโตะ" อยู่ๆข้างในของฮารุกะก็เกิดเต้นแรงขึ้นมาดังตุบๆทันที ทะ...ทำไมมาโกโตะต้องมองเขาด้วยสายตาแบบนั้นะ

"นายน่ะรู้ตัวไหมว่ามีความผิดอยู่ "

"หะ..ห๊ะ..ความผิดหรอ"

"ใช่ " พูดจบมาโกโตะก็ดึงฮารุกะลงมานอนราบกับพื้นแล้วมาโกโตะก็คร่อมร่างบางของฮารุกะเอาไว้ทันที ตาคมของมาโกโตะจ้องมองดวงหน้าหวานของฮารุกะนิ่ง

"มะ..มาโกโตะ นายจะทำอะไร " ถามออกไปอย่างใสชื่อก็เพราะสมองเขาตอนนี้มันว่างเปล่าไปหมดแล้ว

"ฉันจะลงโทษนายไงล่ะฮารุ ข้อหาที่ทำให้ฉันเป็นห่วง " พูดจบมาโกโตะก็ก้มลงไปปิดปากร่างบางของฮารุกะด้วยริมฝีปากหนาทันที

"อึกอื้ม.." ฮารุกะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขาใช้สองมือที่มีอยู่พยายามดันให้ร่างหนาของมาโกโตะห่างออกไปแต่มาโกโตะก็รวบข้อมือของอีกคนเอาไว้บนเหนือหัวอย่างง่ายดาย
มาโกโตะบดริมฝีปากของฮารุกะด้วยความหื่นกระหายเขาสอดลิ้นเข้าไปในริมฝีปากบางแล้วควานหาลิ้นเล็กข้างในโพรงปากด้วยความช่ำชอง

"ฮึก..ฮื้ออ.. " ฮารุกะได้แต่ครางอื้อในลำคอเขาไม่สามารถพูดหรือส่งเสียงอะไรออกมาได้เลย ยิ่งเขาดิ้นหรือส่งเสียงแรงมาโกโตะก็ท่าจะทำแรงยิ่งกว่า

"นายนี่หวานดีจังเลยนะฮารุ ฉันชักอยากลองชิมขึ้นมาแล้วสิ" เมื่อผลักริมฝีปากออกมาโกโตะก็ชมความหอมหวานของฮารุกะทันที แล้วใบหน้าหวานก็ค่อยๆมีเลือดฝาดขึ้นมา รอยยิ้มร้ายกายก็ผุดขึ้นมาในทันที เขาก้มลงไปจูบปิดปากฮารุกะอีกครั่ง
แต่ครั่งนี้มันเป็นจูบที่ดูดดื่มกว่าและร้อนแรงกว่า ถึงฮารุกะจะยังดิ้นขัดขืนอยู่แต่ฮารุก็ไม่ได้บอกว่าอย่าทำ มือหนาค่อยๆปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดๆเผยให้เห็นยอดอกสีสวยที่ตั้งชันรอเขาอยู่ตรงหน้า ก่อนที่มาโกโตะจะค่อยๆใช้ลิ้นสากเลียลากลงมาตามลำคอขาว เขาจูบสับเบาๆที่ยอดอกสีสวยซึ่งการกระทำนั้นก็ทำให้ฮารุกะสะท้านไปทั้งตัว

"อะ..อ๊ะ!.. มาโกโตะ "
ยิ้มร้ายๆเผยขึ้นมาอีกครั่งก่อนที่จะก้มลงไปกดจูบที่ยอดอกหวานลิ้นซนทำการสระกิดรัวๆตรงจุดยอดนั่นแล้วเลียลากสลับสองข้างไปมา

"อ๊ะ..อื้มม!!" ร่างบางสะท้านไปทั่วกายความรู้สึกวาบหวามแปลกใหม่ผุดขึ้นมา เขาไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ากำลังทำอะไรอยู่ สมองของเขาตอนนี้มันว่างเปล่าและขาวโพลนเขาคิดอะไรไม่ออกนอกจากชื่อของมมาโกโตะและสิ่งเดียวที่ฮารุกะรับรู้ได้ตอนนี้คือความรู้สึกวาบหวามตรงนั้นที่มาโกโตะกำลังใช้ปากสัมผัสอยู่

"นายรู้สึกดีใช่ไหมฮารุ อืมม.. "มาโกโตะลากลิ้นขึ้นไปตามคอขาวอีกครั่งเขาพรมจูบตรงนั้นหนักจนทำให้เกิดล่อยลอยรักเต็มไปทั่วคอขาว ฝ่ามือหนาลูบไล่ลงไปตามร่างสวยจนไปหยุดอยู่ตรงกลางกายของฮารุกะ เขาผลักออกจากซอกคอแล้วเปลี่ยนมาสนใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้แทน
มาโกโตะปลดเข็มขัดของอีกคนออกแลัวจัดการดึงมันออกมาทันที ท่อนล่างเปลือยเปล่าปรากฎสู่สายตาเขาจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกร้อนรุ่มที่ เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ

"ฉันจะลงโทษนายให้สาสมเลยฮารุ"พูดจบก็เลียริมฝีปากแล้วก้มลงไปกลืนกินแกรนกายของอีกคนทันที เขาใช้ปากชักรูดมันช้าๆก่อนที่จะเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆริมฝีปากหนาดูดเน่นๆตรงส่วนหัวแล้วดันมันเข้าไปจนถึงลำคอ จนอีกคนต้องนอนบิดกายไปมาด้วยความเสียวซ่านทันที

"อ๊ะ..อ๊าา..มะ..มาโกโตะ " ใบหน้หวานแดงก่ำขึ้นอีกเป็นพันเท่าฮารุกะร้อนวูบวาบไปทั่ว แกรนกายเล็กค่อยๆขยับตัวขึ้นเรื่อยๆ เมื่อความเสียวซ่าน แพร่กระจายไปทั่วทุกเซลล์ประสาท ร่างบางทำได้แค่เพียงกัดริมฝีปากตัวเองพร้อมส่งเสียงครางทุ้มอยู่ในลำคำ

"อื้อฮือ...อึก..อืมม~~ "

"ฮืมม์...นายชอบมันใช่ไหมล่ะฮารุ  "

"อ๊ะ..อ๊าา.. อื้มอ๊าา~ "ฮารุกะไม่ตอบอะไรออกไปเขาเพียงแค่ส่งเสียงครางกระเส่าออกมาแทน

"นายน่ะ ทำไมต้องสนใจรินมากกว่าฉันด้วย " พูดจบก็ดันแกรนยักษ์เข้าในข้างในช่องทางรักคับแคบนั้นทันที อารุกะสะดุ้งเฮือกเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในกาย ร่างบางออกแรงดิ้นเพื่อให้สิ่งนั้นหลุดออกไปแต่แล้วมาโกโตะก็ทำการจูบปิดปากฮารุกะอีกครั่งเขาส่งลิ้นเขาไปข้างในดูดชิมน้ำหวานในปากเล็กแล้วดูดลิ้นอีกคนรัวจนฮารุกะเผลอไปกับรสจูบอันแสนหวาน จากนั้นก็ค่อยๆขยับสะโพกไปมาแกรนหนาดันเข้าออกจนมิดด้ามสักพักอีกคนก็ส่งเสียงร้องครางในกระเส่าออกมาอีกครั่ง
มาโกโตะจัดท่าใหม่ขาจับขาอีกข้างขึ้นมาพาดบ่าแล้วกระแทกแกรนเข้าหาช่องรักของอีกคนรัวๆจนเกิดเสียงดังไปทั่วบริเวณ

"อ้าา..อ๊าา..อ๊ะ "

"อะ..อะ..อื้มมมอ้าาา~~ "
เมื่อความสุขเดินทางเข้าใกล้ขอบสวรรค์มากขึ้น มาโกโตะรวบร่างบางขึ้นมาอุ้มเอาไว้โดยที่เขาทั้งสองยังคงเชื่อมติดกันอยู่ แล้วพาร่างบางของฮารุกะเดินเข้าไปในห้องนอนทันที เขาวางร่างสวยลงบนเตียงนอนช้าๆอย่างอ่อนโยนจากนั้นเขาก็ตามคร่อมอีกคนลงไปแล้วบทรักอันร้อนแรงก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ หลายครั่งที่ฮารุกะจวนถึงขีดที่จะปลดปล่อยแต่ทุกครั่งมาโกโตะก็ยับยั้งมาเอาไว้จนฮารุต้องทนอัดอั้นอยู่หลายรอบเรื่อยไป
นกน้อยส่งเสียงต้อนรับเช้าวันใหม่ที่สดใสแสงแดดอ่อนส่อง สายลมพัดใบไม้น้อยใหญ่สั่นไหวไปมา
สองร่างที่นอนบนเตียงแคบค่อยๆตื่นลืมตาขึ้นมา
ฮารุกะจ้องมองไปที่รอบๆตัวแล้วเลือดฝ่าก็วิ่งวนไปทั่วร่างเมื่อนหวนคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในค่ำคืนที่ผ่านมา

"ฮารุ..ฉันมีเรื่องอยากถาม~~ " มาโกโตะที่นอนโอบกอดร่างบางของฮารุกะอยู่เกิดมีความข้องใจบางอย่าง

"........." ฮารุกะจ้องมองเงียบๆเพื่อรอฟังคำของอีกคน

"นายไม่ได้รู้สึกกับรินแบบนั้นใช่ไหม แล้วถ้าเป็นฉันล่ะนายจะอยากว่ายน้ำด้วยไหม "

เมื่อได้ฟังคำถามฮารุกะก็ผุดยิ้มขึ้นมาที่มุมปากทันที
"รินน่ะยังไงก็เป็นแค่เพื่อนเท่านั้นล่ะ มาโกโตะก็คือเพื่อน  แต่ฉันรู้สึกขอบคุณมากๆเลยนะที่มีมาโกโตะอยู่ข้างๆตลอดมา.. "

"ฮารุ~"

"ไม่ว่าจะยังไง.....   ก็อยากว่ายน้ำไปด้วยกัน... ขอแค่ให้มีมาโกโตะอยู่ก็พอ "

"อื้อ..เข้าใจแล้วล่ะ " พูดจบก็โน้มใบหน้าเข้าไปประกบปากจูบอีกคนทันที


                  -The End -
-------------------------------------------------------------------
จบแล้วเรอะ   หลังจากที่ดู free จบแต่ความประทับใจยังไม่จบเชื่อว่าหลายๆคนต้องตกหลุมรัก มาโกโตะกับฮารุกะ มันแน่อยู่แล้วไอ้สองตัวนี้น่ารักจริงๆนี่น่า จนกินรีลี่ทนไม่ไหวเลยล่ะ วะฮ่าฮ่าๆๆ
ฝากติดตามอนิเมะเรื่อง free ต่อๆๆไปจนภาคจบสุดท้าย ฝากติดตามผลงานเขียนกากๆของกินรีลี่ด้วย
ฝากทวิตเตอร์ @aodaed.04 แปะไว้เพื่อใครอยากพูดคุยเนาะ อะริกาโตะ and เซโยนาระ ฮับผม

วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559

[Sf]GyuWoo Love of orphans


ซ่า ซ่า ซ่า .....

เสียงฝนกระหน่ำสาดประทะบานหน้าต่างไม้ คลื่นลมพัดกิ่งไม้น้อยใหญ่เสียดสีหลังคาครืนครืนเสียงดังน่าหนวกหู ฟ้าร้องคำรามครืนโคมน่ากลัวราวกับอยู่กลางวงระเบิด

"ฮยองฮับ น้องนัมนอนไม่หลับ"

ร่างบางของเด็กน้อยวัยหกขวบขยับเข้าหาผู้เป็นพี่ชายต่างสายเลือดที่นอนอยู่ข้างๆกันเขาซุกใบหน้าอู้อี้เข้าหาไหล่กว้างด้วยอาการผวาจากเสียงฟ้ากระหน่ำ

"กลัวหรอ.. ขยับเข้ามาอีกสิ"

ร่างบางของ นัม อูฮยอน เด็กชายตัวน้อยขยับเข้าหาร่างแกร่งพร้อมคนเป็นพี่ที่อ้าแขนตอบรับร่างบาง เขากระชับกอดน้องชายไว้ด้วยความกลัวที่ไม่ต่างกัน ก่อนที่เขาจะดึงผ้าหุ่มขึ้นมาคลุมโปงร่างทั้งสองเอาไว้ เพื่อบรรเทาความกลัวจากสภาพอากาศที่เลวร้ายข้างนอกอาคารไม้ที่เป็นหอพักรวมของเด็กชายอีกหลายคน

เด็กชายตัวน้อยซุกหน้าเข้ากับอกของคนเป็นพี่ชายเขามักจะทำแบบนี้เวลาที่รู้สึกกลัว และทุกครั่งมันทำให้เขารู้สึกปลอดภัยขึ้นตอนที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของ คิม ซองกยู และซองกยูเองก็เช่นกัน เด็กชายตัวน้อยค่อยๆเผลอหลับไป เหลือไว้แต่พี่ชายที่ยังนอนโอบกอดร่างบางเพื่อส่งความอบอุ่นของเขาให้คนตัวเล็กกว่า

ซองกยู เขาเองจำไม่ได้ว่าสนิทกับอูฮยอนตอนไหนเพราะตั้งแต่จำความได้เขาทั้งสองก็อาสัยอยู่ที่นี่ดัวยกันแล้ว

เขาไม่มีครอบครัวอูฮยอนเองก็ไม่มีครอบครัวเด็กทุกคนในนี้ก็เหมือนกัน ทุกคนต่างเป็นเด็กกำพร้าที่มีเพียงแม่ครูเท่านั้นที่ดูแลอยู่

ซองกยูอายุมากว่าอูฮยอนสองปี เขาเป็นคนตั้งให้อูฮยอนเป็นน้องชายของเขาเอง และบอกอูฮยอนว่าเขาจะเป็นพี่ชาย แล้วอูฮยอนก็เชื่อฟังเขา
เขาก็แค่อยากมีครอบครัวแล้วอูฮยอนก็คือครอบครัวที่เขาอยากใช้ชีวิตด้วย เด็กวัยเท่าเขาต้องการความรักจากพ่อแม่แต่เขาไม่สนใจเรื่องพ่อแม่เลยว่าอยู่ที่ไหนยังไงเพราะพ่อแม่ทิ้งเขาก่อนเอง ถ้าหากเกิดเหงาซองกยูจะคิดถึงแต่อูฮยอนเท่านั้น ต่างจากอูฮยอนที่บ่นกับเขาบ่อยๆว่าอยากมีแม่ ฮ่าๆๆๆ ก็เพราะอูฮยอนขี้แยมากไง

ในวันที่ฝนตกหนักแบบนี้เขาไม่ชอบเลย มันเสียงดังแล้วก็น่ากลัว แล้วมันยังทำให้เหงาด้วย เด็กชายกระชับกอดร่างน้อยของน้องชายที่เป็นครอบครัวของเขาเบาๆก่อนที่จะหลับตาลงไปท่ามกลางเสียงฝนที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรงก่อนที่จะค่อยๆเผลอหลับตามอีกคนไปในที่สุด

----------------------------
ไม่รู้จะชอบกันไหมทั้งคนที่หลงเขามาก็ดี กดผิดเข้ามาก็ดี 55  @aodaed.04 แปะเอาไว้ก่อนเนาะ😆